เครือข่ายพาย(Pi Network) กำลังเผชิญกับปัญหาในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เมนเน็ต ส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากแสดงความไม่พอใจ นักขุดพายคอยน์(PI) กำลังวิตกกังวล เนื่องจากเส้นตายในการโอนสินทรัพย์ไปยังเมนเน็ตในวันที่ 14 มีนาคม กำลังใกล้เข้ามา แต่กลับพบอุปสรรคในการดำเนินการอย่างราบรื่น
โครงการพายเน็ตเวิร์กระบุเวลา ‘08:00 UTC’ เป็นกำหนดเส้นตายสุดท้าย และหากไม่สามารถยืนยันตัวตน(KYC) ได้ทันเวลา ส่วนใหญ่ของโทเคนที่ขุดในช่วงหกเดือนที่ผ่านมามีแนวโน้มจะสูญหาย แม้ว่าจะมีการเสนอ ‘ช่วงผ่อนผัน’ แต่ผู้ใช้หลายคนยังคงประสบปัญหาทางเทคนิคในการย้ายโทเคน ทำให้เกิดความไม่พอใจในวงกว้าง
นักวิเคราะห์คริปโตหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมเรียกร้องให้มีการขยายกำหนดเวลาต่อไป ผู้ใช้จำนวนไม่น้อยระบุว่าพวกเขาผ่านขั้นตอน KYC แล้ว แต่สถานะยังคงเป็น ‘ไม่ได้ดำเนินการ’ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ผู้ที่ร้องขอความช่วยเหลือมักไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ซึ่งทำให้เกิดข้อกังขาเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของโครงการ
ท่ามกลางปัญหาดังกล่าว ราคาของพายคอยน์ยังคงซบเซา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาร่วงลง 16.3% สู่ระดับ 1.40 ดอลลาร์ โดยเฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ลดลงอีก 12.2% กระตุ้นความวิตกกังวลในตลาด เมื่อราคาหลุดแนวรับที่ 1.43 ดอลลาร์ นักลงทุนเริ่มหวั่นว่าจะร่วงต่อเนื่องไปถึง 1.20 ดอลลาร์ หรือแม้แต่ 0.99 ดอลลาร์ ทางเดียวที่จะกลับมาเป็นขาขึ้นอาจต้องพุ่งกลับไปที่ 1.74 ดอลลาร์ แต่แนวโน้มปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณบวกที่ชัดเจน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงรอคอยข่าวการจดทะเบียนในไบแนนซ์(Binance) แม้ว่าชุมชนพายกว่า 86% จะลงคะแนนสนับสนุนให้จดทะเบียน แต่นับจนถึงขณะนี้ ไบแนนซ์ยังไม่ออกแถลงการณ์ใดๆ ทำให้ผู้ใช้บางส่วนเริ่มแสดงความไม่พอใจด้วยการให้รีวิวเชิงลบต่อแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ ไบบิต(Bybit) ยังเพิ่มความตึงเครียดหลังจากซีอีโอของแพลตฟอร์มกล่าวหาว่าพายเน็ตเวิร์คเป็น ‘โครงการหลอกลวง’ สร้างความสั่นคลอนในมุมมองของตลาด
แม้ว่างาน ‘วันพาย(Pi Day)’ ที่กำลังจะมาถึงอาจช่วยสร้างความตื่นเต้นให้กับชุมชน แต่ด้วยความล่าช้าในการย้ายไปเมนเน็ตและความไม่แน่นอนของตลาด ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อโครงการอาจได้รับผลกระทบต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0