สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ทอม เอ็มเมอร์(Tom Emmer) เรียกร้องให้มีการผลักดันกฎหมายที่เป็นมิตรต่อ ‘สเตเบิลคอยน์’ พร้อมระบุว่า สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) เป็น ‘ภัยคุกคามต่อคุณค่าของอเมริกา’ ในการประชุมคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 11 เอ็มเมอร์ย้ำถึงความสำคัญของการออกกฎหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับ ‘สเตเบิลคอยน์’
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 เอ็มเมอร์ได้เสนอร่างกฎหมาย ‘Anti-Surveillance State Act’ อีกครั้ง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อจำกัดอำนาจของฝ่ายบริหารในการออก CBDC โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรส เขากล่าวว่า “เทคโนโลยี CBDC ขัดกับหลักการของอเมริกา” และเตือนว่าหากหน่วยงานที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งมีอำนาจออก CBDC อาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัวทางการเงินของประชาชน
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 23 มกราคม เพื่อห้ามการออกและการใช้ CBDC ในสหรัฐฯ เอ็มเมอร์ให้ความเห็นว่า หากร่างกฎหมายของเขาถูกตราเป็นกฎหมาย จะสามารถป้องกันไม่ให้รัฐบาลนำนโยบายการเฝ้าระวังทางการเงินมาใช้โดยอาศัย CBDC
ในเวทีเดียวกัน ชาร์ลส์ คาสคาริลลา(Charles Cascarilla) ซีอีโอของ ‘แพกซอส(Paxos)’ เผยว่าสหรัฐฯ จำเป็นต้องมีกฎระเบียบเกี่ยวกับ ‘สเตเบิลคอยน์’ ที่มีความต่อเนื่องและสอดคล้องกับมาตรฐานระดับโลก เขาชี้ว่า การสร้างมาตรฐานที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันการหลีกเลี่ยงกฎระเบียบของประเทศต่าง ๆ และส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาตลาดที่ยั่งยืน
เอ็มเมอร์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ CBDC อาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัวของระบบการเงิน แต่ ‘สเตเบิลคอยน์’ สามารถเป็นทางเลือกในการนำระบบการเงินไปสู่บล็อกเชนแทน เขาสนับสนุนให้มีการพัฒนา ‘สเตเบิลคอยน์’ ควบคู่ไปกับการปิดกั้นการออก ‘CBDC’ เพื่อรักษาสมดุลในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล
ขณะเดียวกัน ความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลทางการเมืองของอุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้น รายงานจาก ‘ศูนย์ความรับผิดชอบทางการเมือง (CPA)’ เผยว่า อุตสาหกรรมคริปโตได้บริจาคเงินสนับสนุนทางการเมืองแล้วกว่า 134 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.95 แสนล้านวอน) ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของกฎระเบียบในอนาคต
ความคิดเห็น 0