รัสเซียถูกกล่าวหาว่าใช้คริปโตเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรด้านการค้าน้ำมัน
เมื่อวันที่ 16 สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ผู้ส่งออกน้ำมันของรัสเซียกำลังเพิ่มการใช้ ‘บิตคอยน์(BTC)’, ‘อีเธอเรียม(ETH)’ และ ‘เทเธอร์(USDT)’ ในการชำระเงินระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการใช้คริปโตในการเปลี่ยนสกุลเงิน ‘หยวน’ และ ‘รูปี’ ก่อนแปลงกลับเป็น ‘รูเบิล’ ของรัสเซีย
รายงานระบุว่า ผู้ซื้อชาวจีนจ่ายค่าน้ำมันดิบของรัสเซียเป็นเงินหยวนให้กับบริษัทตัวกลางในต่างประเทศ จากนั้นบริษัทเหล่านี้จะเปลี่ยนเงินเป็นคริปโตและโอนไปยังบัญชีในหลายระดับ ก่อนจะถูกแปลงเป็นรูเบิลในรัสเซีย วิธีนี้ช่วยให้รัสเซียสามารถทำธุรกรรมระหว่างประเทศโดยไม่ต้องพึ่งพา ‘ดอลลาร์สหรัฐ’ หรือระบบการเงินแบบดั้งเดิม
รัสเซียได้ปรับปรุงกฎหมายในปี 2024 เพื่ออนุญาตให้ใช้คริปโตในบางขอบเขตของการค้าระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ‘ธนาคารกลางรัสเซีย’ ยังคงเข้มงวดต่อการใช้คริปโตภายในประเทศ แต่เลือกที่จะใช้แนวทางที่ยืดหยุ่นขึ้นสำหรับธุรกรรมระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกัน หน่วยงานการเงินของรัสเซียกำลังพิจารณาให้สิทธิ์นักลงทุนรายใหญ่ในการซื้อขายคริปโตในรูปแบบที่มีการกำกับดูแล โดยแนวทางนี้ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 12 ซึ่งสะท้อนความพยายามของทางการในการบริหารตลาดคริปโตและเพิ่มความโปร่งใส
การใช้คริปโตของรัสเซียสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มเดียวกับประเทศที่ถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก เช่น ‘เวเนซุเอลา’ และ ‘อิหร่าน’ ที่ใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นทางเลือก อย่างไรก็ตาม การนำคริปโตมาใช้ในภาคพลังงานโดยรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลก อาจทำให้แนวโน้มนี้เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น
ความคิดเห็น 0