วิตาลิก บูเตริน ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม(ETH) ได้ขายโทเคน ดอร์นี(DHN) จำนวน 5,000 เหรียญ ส่งผลให้ราคาปรับตัวร่วงลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อวันที่ 18 (เวลาท้องถิ่น) แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน ‘สปอตออนเชน’(Spot On Chain) รายงานว่า บูเตรินได้ขายโทเคน DHN จำนวน 5,000 เหรียญเป็นมูลค่า 65 อีเธอเรียม(ETH) หรือประมาณ 124,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 18.1 ล้านบาท) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโทเคนที่เขาได้รับจากการแอร์ดรอปโดยดอร์นีแล็บส์เมื่อวันที่ 29 มกราคม จำนวนทั้งสิ้น 10,000 DHN การขายครั้งนี้ทำให้ราคาของ DHN ลดลงถึง 50% ภายในระยะเวลาอันสั้น
DHN เป็นโทเคนของระบบนิเวศ ‘ดอร์นี’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเพื่อการศึกษาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลบนเครือข่ายอีเธอเรียม โทเคนที่บูเตรินได้รับมานั้นเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการตลาดที่หลายโครงการใช้ โดยแจกจ่ายให้กับบุคคลที่มีชื่อเสียงเพื่อเพิ่มการรับรู้ต่อโครงการ อย่างไรก็ตาม การขายโทเคนของเขาทำให้ราคาของ DHN ลดฮวบจาก 38.505 ดอลลาร์สหรัฐฯ เหลือเพียง 20.699 ดอลลาร์ ก่อนที่ราคาจะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 39.75 ดอลลาร์ ณ ปัจจุบัน
ในการตอบสนองต่อสถานการณ์ดังกล่าว ดอร์นีแล็บส์ได้เสนอให้ใช้ช่องทางการซื้อขายนอกตลาด (OTC) ในการจัดการกับ DHN ที่บูเตรินเหลืออยู่ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงของราคาที่อาจเกิดขึ้นอีก ขณะนี้คาดว่าบูเตรินยังคงถือครอง DHN มูลค่าประมาณ 190,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 27.7 ล้านบาท)
บูเตรินมีจุดยืนชัดเจนต่อเรื่องการได้รับแจกโทเคนโดยไม่ได้ร้องขอ เขาเคยแนะนำให้โปรเจกต์ต่างๆ หันไปบริจาคให้มูลนิธิการกุศลแทนที่จะส่งโทเคนให้เขาโดยตรง ตัวอย่างเช่น ในเดือนสิงหาคม 2024 เขาขายเหรียญมีมเกี่ยวกับสัตว์เป็นมูลค่า 530,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 77.4 ล้านบาท) และนำเงินไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศล อีกทั้งในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน เขาขายโทเคนมีมมูลค่ากว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 146 ล้านบาท) เพื่อนำไปทำบุญ ในปี 2023 เขาได้ปฏิเสธข่าวลือที่ว่าเขาขายอีเธอเรียม(ETH) และสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมาก โดยชี้แจงว่าธุรกรรมของเขาเป็นการบริจาคให้แก่โครงการบล็อกเชนและองค์กรไม่แสวงหากำไร
ล่าสุด บูเตรินได้เสนอให้โครงการต่างๆ จัดตั้งองค์กรอิสระแบบกระจายศูนย์ (DAO) เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางสำหรับการบริจาคโดยชุมชน เขาเชื่อว่าเหรียญมีมควรถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์เชิงบวกต่อโลก และหวังว่าจะได้เห็นตัวอย่างของการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อการกุศลมากขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น 0