ปริมาณการซื้อขายของกระดานแลกเปลี่ยนแบบไร้ศูนย์กลาง(DEX) บนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) ลดลงถึง 34% ภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ สร้างความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มราคาของ ETH ในอนาคต ขณะเดียวกัน โซลานา(SOL), ทรอน(TRX) และไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid) กำลังเพิ่มส่วนแบ่งในตลาด ทำให้อีเธอเรียมต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ราคาของ ETH ร่วงต่ำกว่าระดับ 2,200 ดอลลาร์ และยังคงเผชิญความยากลำบากในการฟื้นตัว โดยตั้งแต่ต้นเดือนนี้ ETH สูญเสียมูลค่าไปถึง 14% ในขณะที่ตลาดคริปโตโดยรวมลดลงเพียง 4% บ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ ETH กำลังอ่อนแอลง
แม้ว่าปริมาณการซื้อขายของ DEX ที่ลดลงจะกระทบโซลานา (-29%) และซุย(SUI) (-17%) เช่นกัน แต่ในทางกลับกัน ไบแนนซ์สมาร์ตเชน (BNB Chain) กลับเพิ่มขึ้น 27% และคันโต(Canto) พุ่งขึ้นถึง 445% ยิ่งไปกว่านั้น โปรโตคอลบางส่วนบนอีเธอเรียมได้รับผลกระทบหนัก เช่น แมฟเวอริกโปรโตคอล(Maverick Protocol) ที่ลดลง 85% และโดโด(DODO) ที่ลดลง 46% ขณะที่แพนเค้กสวอป(PancakeSwap) บน BNB Chain สามารถทำรายได้จากค่าธรรมเนียมสูงกว่า ยูนิสวอป(Uniswap) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าค่าธรรมเนียมที่ลดลงอาจส่งผลให้ความต้องการใช้งาน ETH ลดลง
ในส่วนของมูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) แม้อีเธอเรียมจะยังคงเป็นผู้นำอยู่ที่ 47.2 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ลดลง 9% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ขณะเดียวกัน โซลานาลดลง 3% แต่ BNB Chain โตขึ้น 6% ทั้งนี้ แพลตฟอร์มในเครืออีเธอเรียม เช่น สตาร์เกตไฟแนนซ์(Stargate Finance), เมคเกอร์(Maker) และสปาร์ค(Spark) ก็ลดลง 11%, 9% และ 6% ตามลำดับ ตอกย้ำแนวโน้มการหดตัวของอีเธอเรียม
นอกจากนี้ ตลาดอนุพันธ์ยังส่งสัญญาณเชิงลบ โดยส่วนต่างราคาฟิวเจอร์สของ ETH ต่ำกว่า 5% สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนระยะยาวที่ลดลง อีกทั้ง กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) ที่อิงกับสินทรัพย์จริงของ ETH มีเงินไหลออก 293 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม ซึ่งชี้ว่าความสนใจจากนักลงทุนสถาบันอาจลดลง
อีเธอเรียมยังเสียเปรียบในการแข่งขันกับ ‘ตลาดเหรียญมีม’ ที่เติบโตอย่างรวดเร็วบนโซลานา โดยเฉพาะเหรียญที่เกี่ยวข้องกับทรัมป์ ขณะที่ทรอนและโซลานายังดึงดูดสภาพคล่องของสเตเบิลคอยน์ได้กว่า 75 พันล้านดอลลาร์ ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า ด้านไฮเปอร์ลิควิดก็กำลังพัฒนาเครือข่ายบล็อกเชนของตัวเองขึ้นมาเป็นคู่แข่งรายใหม่
ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง มีการคาดการณ์ว่าหากอีเธอเรียมต้องการกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง การอัปเกรด ‘เพคทรา(Pectra)’ ที่กำลังจะเกิดขึ้นอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยดึงดูดผู้ใช้กลับมา อย่างไรก็ตาม หากการอัปเกรดครั้งนี้ไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้ อีเธอเรียมอาจต้องเผชิญกับความท้าทายที่หนักหน่วงยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0