แม้ว่าตลาด ‘มีมคอยน์’ จะซบเซาลงอย่างรวดเร็ว แต่เครือข่ายของโซลานา(SOL) กลับได้รับการพัฒนามากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โซลานาเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปลายปี 2023 ด้วยกระแสมีมคอยน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแพลตฟอร์มอย่าง 'Pump.fun' ที่มีการสร้างโทเคนใหม่หลายพันเหรียญต่อวัน ทำให้ปริมาณการซื้อขายในตลาดกระจายอำนาจ(DEX) เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ในช่วงต้นปี 2024 ปริมาณการซื้อขาย DEX รายวันของโซลานาแตะระดับ 35.9 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.29 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นในตลาดเริ่มลดลงหลังมีประเด็นเกี่ยวกับ ‘รั๊กพูล’ และการแจกจ่ายโทเคนที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งนำไปสู่การล่มสลายของกระแสมีมคอยน์
ผลกระทบจากเรื่องนี้ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมบนเครือข่ายโซลานาลดลงถึง 93% เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดในเดือนมกราคม ขณะที่จำนวนที่อยู่กระเป๋าเงินที่ยังใช้งานอยู่ก็ลดลงจาก 6.4 ล้านเหลือเพียง 2.8 ล้าน นอกจากนี้ในเดือนมีนาคม มี SOL จำนวน 112 ล้านเหรียญถูกปลดล็อกเข้าสู่ตลาด ส่งผลให้ราคาของโซลานาลดลงถึง 58% จากจุดสูงสุดในช่วงเดือนมกราคม
แม้จะเผชิญกับความผันผวน แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเครือข่ายโซลานากลับแข็งแกร่งขึ้นหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ โครงสร้างพื้นฐานของเครือข่ายได้รับการปรับปรุงจนสามารถรองรับธุรกรรมมูลค่ามากถึง 40 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.44 ล้านล้านบาท ต่อวันได้อย่างมีเสถียรภาพ
ในอนาคต โซลานามีโอกาสเติบโตจากการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาเสริมในระบบนิเวศ รวมถึงการเงินกระจายอำนาจ(DeFi), โครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพแบบกระจายอำนาจ(DePIN), เกม และโครงการที่ใช้ AI ทั้งนี้ หากโซลานาดำเนินการอัปเกรดเครือข่าย ‘ไฟร์แดนเซอร์(Firedancer)’ สำเร็จ อาจช่วยให้ประสิทธิภาพของเครือข่ายเพิ่มขึ้นอีกระดับ
แม้กระแสมีมคอยน์จะผ่านพ้นไป แต่โซลานากลับสามารถใช้ประโยชน์จากแนวโน้มดังกล่าวเพื่อพัฒนาเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่ออนาคตของโปรเจกต์นี้
ความคิดเห็น 0