เครือข่ายของอีเธอเรียม(ETH) มีปริมาณการใช้งานลดลง ส่งผลให้จำนวนเหรียญที่ถูก ‘เผา’ อยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ตามข้อมูลจาก Etherscan เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ปริมาณอีเธอเรียมที่ถูกเผาภายในวันเดียวมีเพียงประมาณ 50ETH เท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณธุรกรรมที่ลดลงและกิจกรรมบนเครือข่ายที่ซบเซาลง
อีเธอเรียมได้เปิดตัวกลไก EIP-1559 ผ่านการอัปเกรดลอนดอนฮาร์ดฟอร์กเมื่อเดือนสิงหาคม 2021 โดยระบบนี้จะทำการ ‘เผา’ ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบางส่วนโดยอัตโนมัติ ซึ่งส่งผลให้ปริมาณอีเธอเรียมลดลงเมื่อมีความต้องการใช้งานเครือข่ายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเครือข่ายได้รับความนิยมน้อยลง การเผาเหรียญจึงลดลงอย่างมาก
ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการเติบโตของโซลูชันเลเยอร์ 2 เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้กิจกรรมบนเมนเน็ตลดลง โดยเจฟฟรีย์ เคนดริก(Geoffrey Kendrick) จากสแตนดาร์ดชาร์เตอร์(Standard Chartered) ระบุในรายงานล่าสุดว่า “แพลตฟอร์มอย่าง Base ของคอยน์เบสกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้ธุรกรรมจำนวนมากเกิดขึ้นบนเลเยอร์ 2 โดยตรง แทนที่จะใช้เครือข่ายหลัก”
ปัจจัยเหล่านี้อาจสะท้อนถึงมูลค่าในระยะยาวของอีเธอเรียม โดยสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ได้ปรับลดการคาดการณ์ราคาเป้าหมายของอีเธอเรียมในปี 2025 จาก 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 14.6 แสนบาท) ลงมาอยู่ที่ 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.84 แสนบาท) แม้ว่าเครือข่ายจะมีการพัฒนาเพื่อเพิ่มความสามารถในการขยายตัวและลดต้นทุน แต่ความต้องการใช้งานอีเธอเรียมอาจขึ้นอยู่กับความเร็วในการเติบโตของโซลูชันเลเยอร์ 2
อย่างไรก็ดี ระบบนิเวศของอีเธอเรียมยังคงได้รับความสนใจจากภาคธุรกิจ ล่าสุด BioNexus Gene Lab Corp. บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก ได้ประกาศอนุมัติกลยุทธ์การระดมทุนใหม่ที่อิงกับอีเธอเรียม พร้อมรวมสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาในพอร์ตการเงินของบริษัท
อนาคตของอีเธอเรียมยังคงขึ้นอยู่กับการขยายตัวของระบบนิเวศและการเพิ่มกิจกรรมบนเครือข่าย โดยการอัปเกรดที่กำลังจะเกิดขึ้นและความก้าวหน้าของโซลูชันเลเยอร์ 2 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดเส้นทางการเติบโตของอีเธอเรียมต่อไป
ความคิดเห็น 0