นักลงทุนรายใหญ่เพิ่มการถือครอง อีเธอเรียม(ETH) หนุนราคากลับสู่ระดับ 2,200 ดอลลาร์
ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม นักลงทุนรายใหญ่หรือที่เรียกว่า ‘วาฬคริปโต’ ได้เพิ่มการสะสม อีเธอเรียม(ETH) อย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดเริ่มคาดการณ์ถึงโอกาสที่ราคาจะฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับ 2,200 ดอลลาร์ การวิเคราะห์ข้อมูลจาก เทรดดิ้งวิว(TradingView) แสดงให้เห็นว่า อีเธอเรียม เคยแตะระดับสูงสุดที่ 4,100 ดอลลาร์เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนจะร่วงลงมาถึง 51% ภายในระยะเวลาเพียงสามเดือน
นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง "เร็ค แคปิตอล(Rekt Capital)" โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย X เมื่อวันที่ 19 ว่า "อีเธอเรียมจำเป็นต้องผ่านระดับ 2,200 ดอลลาร์ เพื่อเรียกโมเมนตัมขาขึ้นกลับมา" ซึ่งหมายความว่าหากต้องการกลับสู่แนวโน้มกระทิง ราคาจะต้องยืนเหนือระดับดังกล่าวให้ได้
นอกจากนี้ ตลาดอนุพันธ์ก็ส่งสัญญาณเชิงบวกเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 21 สัญญาฟิวเจอร์สของ อีเธอเรียม มี ‘มูลค่าคงค้าง’ (Open Interest) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่ากลุ่มนักลงทุนสถาบันและผู้เล่นรายใหญ่กำลังเดิมพันว่าราคาจะขึ้นต่อไป ผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่า ETH อาจพุ่งทะลุระดับ 2,400 ดอลลาร์ได้
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีแนวโน้มเชิงบวกจากปัจจัยด้านกฎระเบียบ แต่ ETH ก็ยังคงขาดแรงผลักดันที่ชัดเจนในการพุ่งขึ้น ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ได้ถอนฟ้องคดีต่อต้าน ริปเปิล(XRP) ซึ่งสะท้อนถึงท่าทีที่ผ่อนคลายลงในการกำกับดูแล อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้กลับยังไม่มากพอที่จะทำให้ราคา ETH พุ่งขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ
จากข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทวิจัยบล็อกเชน นันเซน(Nansen) ‘นิโคไล ซอนเดอร์การ์ด(Nicolai Sondergaard)’ เปิดเผยว่า "กระเป๋าสตางค์ที่ถือครอง ETH ตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 เหรียญ ยังคงซื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนทั่วไปยังคงออกจากตลาด" ซึ่งสะท้อนว่ากลุ่มวาฬกำลังมองเห็นโอกาสในสถานการณ์ปัจจุบัน
ข้อมูลจาก แกลสโนด(Glassnode) ยังชี้ให้เห็นว่าจำนวนกระเป๋าสตางค์ที่ถือ ETH มูลค่า 100,000 ดอลลาร์ขึ้นไป ได้เพิ่มขึ้นจาก 70,000 เป็น 75,000 ใบตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นสัญญาณว่านักลงทุนรายใหญ่กำลังเข้าซื้อที่ระดับราคาปัจจุบัน
แม้ความผันผวนระยะสั้นยังมีอยู่ แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มองว่า อีเธอเรียม จะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นในปี 2025 บริษัทจัดการสินทรัพย์ระดับโลก 'แวนเอ็ก(VanEck)' คาดการณ์ว่า ETH อาจพุ่งถึง 6,000 ดอลลาร์ภายในปีนี้ ส่วน บิตคอยน์(BTC) ก็อาจแตะระดับ 180,000 ดอลลาร์เช่นกัน
ความคิดเห็น 0