การตัดสินใจของเว็บเทรดคริปโตในการลิสต์เหรียญทางเลือก(Altcoin)ครั้งแรก อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันที่ไม่มีวันจบในตลาด *มิมคอยน์* ตามคำเตือนจากชุมชนผู้เชี่ยวชาญในวงการคริปโต
เมื่อวันที่ 29 อเล็กซ์ เรย์ซีแมน(Alex Leishman) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของริเวอร์ ไฟแนนเชียล(River Financial) เผยว่า เว็บเทรดที่เปิดรับเหรียญอื่นนอกจากบิตคอยน์(BTC) ไม่ต่างอะไรจากการขึ้นวิ่งอยู่บน ‘ลู่วิ่งมิมคอยน์’ ที่ไม่มีวันหยุด เขากล่าวเสริมว่า “หากลิสต์อีเธอเรียม(ETH)หรือโซลานา(SOL) ก็ยากจะปฏิเสธการลิสต์เหรียญย่อยในระบบนิเวศเดียวกันได้” ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวสู่ระบบสินทรัพย์หลากหลายตามธรรมชาติ และ *เปิดทางให้มิมคอยน์เข้าสู่ตลาดมากขึ้น*
เรย์ซีแมนยังระบุอย่างชัดเจนว่า *ริเวอร์ ไฟแนนเชียลเป็นสถาบันการเงินที่เน้นเฉพาะบิตคอยน์* เท่านั้น และไม่สนใจโมเดลที่เขาเรียกว่า “คาสิโนคริปโตที่ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จ” โดยใช้ตัวอย่างบริษัทอื่นๆ ที่มีแนวทางเดียวกัน เช่น สวอน บิตคอยน์(Swan Bitcoin), บูล บิตคอยน์(Bull Bitcoin) และบิสค์(Bisq) ซึ่งให้บริการแบบ ‘บิตคอยน์เท่านั้น’ เช่นกัน
ในความเห็นของเขา โมเดลแบบพอร์ตสินทรัพย์หลายเหรียญมุ่งเป้าที่ผลตอบแทนระยะสั้น ขณะที่ *การโฟกัสเฉพาะบิตคอยน์คือการเน้นความมั่งคั่งระยะยาวและการปกป้องทรัพย์สิน* “คาสิโนมีเป้าหมายหลักคือลากเงินออกจากกระเป๋าลูกค้า เราจึงตั้งใจเดินห่างจากโมเดลนั้น” เขากล่าว
การวิจารณ์ตลาดมิมคอยน์ไม่ได้มีเพียงรายเดียว ในช่วงต้นปีนี้ เอ็ดดี ลาซาริน(Eddy Lazzarin) ประธานฝ่ายเทคโนโลยีของ A16z แสดงความคิดเห็นเมื่อเดือนเมษายนว่า “มิมคอยน์บ่อนทำลายวิสัยทัศน์ระยะยาวของวงการคริปโต และในกรณีดีที่สุด ตลาดนี้ก็ไม่ต่างจาก ‘คาสิโนความเสี่ยงสูง’”
ข้อมูลชี้ว่าความนิยมของมิมคอยน์เริ่มถดถอย โดยในช่วงต้นปี 2025 มูลค่าตลาดรวมของมิมคอยน์ลดลงประมาณ 49% เหลือเพียง 48,490 ล้านดอลลาร์ (ราว 70.7 ล้านล้านวอน) ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนหน้าราว 28% แนวโน้มสะท้อนว่า ‘กระแสชั่วคราว’ จากมิมคอยน์กำลังหมดแรงอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เว็บเทรดยังมองว่า ตลาดอัลท์คอยน์และมิมคอยน์ยังเป็น ‘แหล่งรายได้ที่น่าสนใจ’ ตัวอย่างเช่น โรบินฮู้ด(Robinhood) ที่เปิดให้บริการคริปโตหลากหลาย ส่งผลให้รายได้คริปโตในไตรมาส 4 ปี 2024 พุ่งขึ้นถึง 700% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ข้อมูลจากนักวิเคราะห์สายออนเชนระบุว่า 12 จาก 15 มิมคอยน์ที่ไบแนนซ์(Binance) ลิสต์ในปี 2024 มีกำไรทันทีหลังเข้าตลาด
แต่ในอีกมุมหนึ่ง สิ่งนี้กำลังนำไปสู่ *ความเหลื่อมล้ำแบบสุดโต่ง (Power Law)* ในตลาดมิมคอยน์ บ๊อบบี้ อง(Bobby Ong) ผู้ร่วมก่อตั้งคอยน์เกคโค่(CoinGecko) เตือนว่า “สุดท้ายแล้ว 99.99% ของมิมคอยน์จะล้มเหลว มีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่จะอยู่รอด”
เรย์ซีแมนสรุปว่า “เราปฏิเสธสิ่งล่อใจระยะสั้นเพื่อแลกกับความไว้วางใจในระยะยาว” โดยเขาเชื่อมั่นว่าการยึดมั่นในบิตคอยน์ เป็นหนทางในการมอบ ‘คุณค่าแท้’ ให้กับนักลงทุน ท่ามกลางเสียงรบกวนจากตลาดที่เต็มไปด้วยการเก็งกำไร
ความคิดเห็น 0