บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการจัดการสินทรัพย์ในสหรัฐฯ อย่างทีอูเครียม(Teucrium) ได้เปิดตัว *ETF ที่ใช้เลเวอเรจ 2 เท่าโดยมีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นริปเปิล(XRP)* บนกระดานซื้อขาย NYSE Arca ซึ่งนับเป็น *ETF ริปเปิลตัวแรกในสหรัฐฯ* ที่ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้คือเป็นกรณีที่หายากที่กองทุนประเภทเลเวอเรจออกมาก่อนที่ *ETF แบบถือสินทรัพย์จริง (Spot ETF)* ของริปเปิลจะได้รับอนุมัติ ซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้นในตลาดคริปโตก่อนหน้านี้
กองทุนนี้ใช้ชื่อว่า ‘Teucrium 2x Long Daily XRP ETF’ โดยมีตัวย่อว่า *XXRP* จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ผลตอบแทนรายวันของ XRP เพิ่มขึ้น 2 เท่า เหมาะกับนักลงทุนที่เน้นทำกำไรระยะสั้น ค่าธรรมเนียมการบริหารกองทุนถูกตั้งไว้ที่ 1.85% ต่อปี เบื้องหลังการเปิดตัวครั้งนี้มาจากความคาดหวังเกี่ยวกับริปเปิลแบบ Spot ETF ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทอื่นๆ เช่น วิสดอมทรี(WisdomTree), แฟรงคลิน เทมเพิลตัน(Franklin Templeton) และแคนนารี่ แคปิตอล(Canary Capital) ต่างก็ได้ยื่นขออนุมัติ ETF ที่เกี่ยวข้องกับ XRP เช่นกัน อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการอนุมัติใดๆ จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC)
อีริก บัลชูนาส(Eric Balchunas) นักวิเคราะห์ ETF จาก Bloomberg กล่าวไว้ว่า *“โดยทั่วไปแล้ว ETF แบบถือสินทรัพย์จริงมักจะได้รับการอนุมัติก่อน จากนั้นจึงตามด้วยกองทุนเลเวอเรจ แต่กรณีนี้กลับตาลปัตร”* เขายังเสริมด้วยว่าแม้โอกาสในการอนุมัติ ETF ริปเปิลแบบ Spot จะดูเพิ่มขึ้น แต่ *"ก็ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน”*
ความเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างตลาดก็มีผลต่อการออก ETF นี้เช่นกัน หลังจาก *ประธานาธิบดีทรัมป์* ชนะเลือกตั้งเมื่อปีที่ผ่านมา นโยบายของ SEC มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น ส่งผลให้มุมมองต่อสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นไปในทางบวก ตัวอย่างชัดเจนคือการที่ SEC ได้ปิดคดีความกับริเปิลแลปส์(Ripple Labs) โดยตกลงยอมจ่ายค่าปรับจำนวน 5,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 730 ล้านบาทไทย สิ่งนี้ช่วย *ลดความไม่แน่นอนด้านกฎหมายของ XRP* และอาจเป็น *ก้าวสำคัญสู่การอนุมัติ ETF แบบ Spot ในอนาคต*
แต่อย่างไรก็ดี คาดการณ์ความต้องการของนักลงทุนยังคงมีข้อจำกัด โดยเฉพาะเมื่อตลาด ETF ของอีเธอเรียม(ETH) แสดงให้เห็นถึง *ปริมาณซื้อขายที่ต่ำ* นอกจากนี้ จุดอ่อนของ XRP อย่างความผันผวนสูงและอัตราผลตอบแทนที่ไม่นิ่งยังคงเป็นความเสี่ยงสำคัญที่นักลงทุนต้องพิจารณา
ในแง่ของราคา *XRP ซื้อขายอยู่ที่ $1.87* ในวันเปิดตัวกองทุนเมื่อวันที่ 8 โดยในช่วง 24 ชั่วโมงมีกำไรเพิ่มขึ้น 7% อย่างไรก็ตาม ภายในสัปดาห์เดียวกัน กลับปรับตัวลดลง 11.2% และหากนับรวมตั้งแต่ต้นเดือน การปรับฐานอยู่ที่ 23% ขณะที่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าราคาก็ร่วงลงกว่า 20% แสดงให้เห็นถึง *แนวโน้มที่ยังคงอ่อนตัวอยู่ในภาพรวม*
สาเหตุหนึ่งคือผลกระทบจากนโยบายการค้าของทรัมป์ ซึ่งทำให้ตลาดคริปโตทั้งภาพรวมลดลง 8.2% ขณะที่ XRP ตกลงมากกว่าเกณฑ์เฉลี่ย อย่างไรก็ตาม หากมองในระยะยาว XRP ยังคงมี *อัตราเติบโตกว่า 215% ในรอบปี* โดยมีแรงหนุนหลักมาจากการปิดดีลคดีความและความหวังจาก ETF ที่กำลังจะตามมาในอนาคต *ความคิดเห็น: หากความชัดเจนด้านกฎหมายยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความสนใจจากสถาบันก็น่าจะไหลกลับเข้าสู่ XRP มากยิ่งขึ้นในระยะถัดไป*
ความคิดเห็น 0