แม้ความคาดหวังเกี่ยวกับ ‘บิตคอยน์(BTC)’ ในฐานะสินทรัพย์ที่สามารถเติบโตได้ในระยะยาวท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังเพิ่มขึ้น แต่หลายฝ่ายระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับทิศทางราคาของเหรียญคริปโตอันดับหนึ่งนี้
เมื่อวันที่ 11 รายงานตลาดจาก 10xรีเสิร์ชระบุว่า มาร์คัส ทีเลน(Markus Thielen) หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัท คาดว่าบิตคอยน์อาจยังไม่มีแรงสนับสนุนที่จะพยุงราคาให้สูงขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ ที่เริ่มชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะการขยายตัวของ ‘เครดิตสเปรด’ ซึ่งบางครั้งถือเป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ทีเลนระบุว่า “ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตั้งความหวังกับการฟื้นตัวของบิตคอยน์”
ถึงแม้ว่าโดยทั่วไป ‘การปรับลดอัตราดอกเบี้ย’ โดยธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) จะมองว่าเป็นสัญญาณบวกสำหรับสินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิตคอยน์ แต่ทีเลนกลับมองว่า ตลาดอาจตีความการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกเป็น ‘สัญญาณความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ’ มากกว่าความหวัง เขาระบุว่าในอดีต ช่วงเวลาที่จีนลดค่าเงินหยวน หรือ Fed ปรับลดดอกเบี้ยในครั้งแรก มักทำให้ราคาบิตคอยน์ปรับตัวลดลงในระยะสั้น ซึ่งสะท้อนถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุน
บิตคอยน์ ณ ขณะรายงานซื้อขายอยู่ที่ระดับประมาณ 80,620 ดอลลาร์ (ประมาณ 11.7 ล้านบาท) ขณะที่สหรัฐฯ รายงานตัวเลข ‘ดัชนีราคาผู้บริโภคหลัก (Core CPI)’ เดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นเพียง 2.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งทำให้ เดวิด แซกส์(David Sacks) ที่ปรึกษานโยบายด้านคริปโตฯ และ AI ของทำเนียบขาว แสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดียของเขาเมื่อวันที่ 10 ว่า “นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย”
อย่างไรก็ตาม ‘FedWatch’ ของ CME กรุ๊ป ซึ่งเป็นเครื่องมือวัดคาดการณ์การตัดสินใจของ Fed ระบุว่า มีความเป็นไปได้ถึง 64.8% ที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ในเดือนพฤษภาคมจะ ‘ไม่’ มีการปรับลดดอกเบี้ย ตลาดโดยทั่วไปยังคงเห็นว่าการลดดอกเบี้ยและการขยายปริมาณเงินเป็นผลดีต่อคริปโตเคอร์เรนซี
กระนั้นก็ตาม ทีเลนชี้ว่า หาก ‘เครดิตสเปรด’ ขยายตัวต่อเนื่องในระดับรายปี มีแนวโน้มที่บิตคอยน์จะปรับตัวลงก่อนในช่วงสั้น และต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าราคาจะกลับฟื้นขึ้นมา โดยเขากล่าวย้ำว่า “แม้จะมีโอกาสในระยะยาว แต่ในระยะสั้น แรงกดดันต่อราคายังไม่หมดไป” พร้อมเสริมว่าการลดค่าของเงินสกุลหลักในแต่ละประเทศ มักสร้างผลกระทบเชิงลบต่อตลาดคริปโตฯ ในช่วงแรก
ในอีกด้านหนึ่ง ความกังวลเกี่ยวกับ ‘ค่าเงินดอลลาร์’ ที่อ่อนค่าลงก็ยิ่งถ่วงบรรยากาศการลงทุนมากขึ้น โดยจากข้อมูลของ TradingView ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ(DXY) ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 100.337 ซึ่งลดลงถึง 2.92% ภายใน 5 วันทำการที่ผ่านมา บัญชีผู้ให้ข้อมูลการเงินชื่อ ‘The Kobeissi Letter’ ระบุว่า “เงินดอลลาร์ของสหรัฐกำลังหายไปจากตลาด มีบางอย่างในระบบการเงินที่แน่นอนว่าเริ่มผิดปกติ”
สำหรับมุมมองจากภาคเอกชน ‘ร็อบบี มิชนิก(Robbie Mitchnick)’ หัวหน้าฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท บล랙ร็อก(BlackRock) แสดงความคิดเห็นช่วงปลายเดือนมีนาคมว่า หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นจริง ‘บิตคอยน์’ อาจกลายเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล โดยย้ำว่า “แม้จะไม่มีใครบอกได้แน่ชัดว่าเศรษฐกิจจะถดถอยหรือไม่ แต่หากมันเกิดขึ้นจริง บิตคอยน์จะอยู่ในจุดที่ได้เปรียบอย่างยิ่ง”
ความคิดเห็น 0