บิตคอยน์(BTC) กำลังส่งสัญญาณว่าราคากำลังสร้างฐานรองรับหรือ ‘มีแนวโน้มเป็นจุดต่ำสุดแล้ว’ จากการวิเคราะห์ล่าสุดโดยจอห์น บอลลินเจอร์(John Bollinger) ผู้คิดค้นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคชื่อดังอย่าง ‘Bollinger Bands’ โดยเมื่อวันที่ 10 เขาโพสต์ผ่านบัญชี X (เดิมคือ Twitter) ว่าตัวชี้วัด '%b' ซึ่งมักแสดงถึงการฟื้นตัว กำลังบ่งชี้ถึงการสร้างฐานราคาของบิตคอยน์
บอลลินเจอร์เผยว่าบิตคอยน์มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดรูปแบบ ‘ดับเบิลบอตทอม’ ซึ่งถือเป็นโครงสร้างราคาที่พบในจังหวะการฟื้นตัว โดยรูปแบบนี้จะปรากฏเมื่อราคาต่ำสุดครั้งแรกลดหลุดระดับ 0 ของตัวชี้วัด %b จากนั้นตามมาด้วยการสร้างฐานใหม่ที่ระดับสูงขึ้นเล็กน้อย ถือเป็นสัญญาณคลาสสิกของการกลับตัวขึ้น เขาระบุว่า “บิตคอยน์กำลังสร้างรูปแบบดับเบิลบอตทอมตาม Bollinger Bands แต่ยังจำเป็นต้องรอการยืนยันอีกครั้ง”
%b เป็นตัวชี้วัดที่แสดงตำแหน่งของราคาปิดเมื่อเทียบกับขอบของ Bollinger Bands ถูกคำนวณจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน (SMA) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แม้ทั้งกราฟรายวันและรายสัปดาห์ยังไม่แสดงสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจน แต่ราคาบิตคอยน์กำลังเคลื่อนไหวตามแนวเส้นล่างของ Bollinger Bands ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายมองว่าอาจเป็นสัญญาณว่าราคากำลังเข้าใกล้โซนต่ำสุด
ข้อมูลจาก Cointelegraph Markets Pro และ TradingView ระบุว่าบิตคอยน์ยังคงซื้อขายใกล้ระดับล่างของ Bollinger Bands โดยมี SMA ทำหน้าที่เป็นแนวต้านสำคัญ ขณะเดียวกัน จูเรียน ทิมเมอร์(Jurrien Timmer) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์มหภาคของบริษัทจัดการสินทรัพย์ระดับโลก ฟิเดลิตี้ อินเวสต์เมนท์ แสดงความเห็นในทำนองเดียวกันว่า ดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯ ตอนนี้อยู่ในระดับ oversold แล้ว แต่อาจยังไม่แตะระดับต่ำสุดในเชิงประวัติศาสตร์ จึงมีโอกาสเกิดการปรับฐานเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนประเมินว่าบิตคอยน์ซึ่งเป็นหนึ่งใน ‘สินทรัพย์เสี่ยง’ อันดับต้น ๆ ได้ปรับฐานลงนำหน้าแนสแด็กไปแล้ว และจึงอาจใช้เวลาฟื้นตัวยาวนานกว่า ทิโมธี ปีเตอร์สัน(Timothy Peterson) นักเศรษฐศาสตร์เครือข่าย กล่าวว่า “บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่นำตลาดขาลง โดยการฟื้นตัวก็มีแนวโน้มจะล่าช้ากว่าแนสแด็ก” ทั้งนี้ เขายังมองว่าแนสแด็กอาจยังเผชิญการปรับฐานอีกราว 10%
ปัจจุบัน ราคา 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,022,000 บาท กำลังถูกจับตามองว่าเป็น ‘แนวรับสำคัญในระยะสั้น’ ของบิตคอยน์ ซึ่งถือเป็นทั้งแนวต้านเชิงจิตวิทยา และบริเวณที่สภาพคล่องตลาดหนาแน่น การเคลื่อนไหวของราคาบริเวณนี้จึงอาจเป็นตัวกำหนดทิศทางในลำดับถัดไป
ความคิดเห็น 0