ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ยืนยันว่าจะเข้าดำเนินการทันทีหากระบบการเงินมีความเสี่ยงสูงที่จะขาดสภาพคล่องหรือเสียสมดุล โดยเมื่อวันที่ 21 ตามรายงานของ Financial Times ซูซาน คอลลินส์(Susan Collins) ประธานธนาคารกลางสาขาบอสตัน กล่าวในสัมภาษณ์ว่า "เราพร้อมสนับสนุนตลาดหากจำเป็นอย่างแน่นอน"
แม้ว่าจะเป็นที่ทราบกันดีว่า Fed มีเครื่องมือในการรักษาเสถียรภาพของตลาด แต่คำแถลงนี้ก็ได้รับความสนใจเนื่องจากสภาวะตลาดทั่วโลกกำลังเผชิญแรงขายอย่างหนัก โดยเฉพาะตลาดหุ้นและตราสารหนี้ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง จนเกิดความกังวลต่อเสถียรภาพของระบบการเงินโดยรวม
คอลลินส์กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังไม่มีสัญญาณของวิกฤตสภาพคล่องในขณะนี้ แต่หากมีความเสี่ยงเกี่ยวกับ "การทำงานของตลาดหรือสภาพคล่อง" ก็มีเครื่องมือพร้อมรับมือ เธอยังมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนในคณะกรรมการนโยบายการเงินของ Fed (FOMC) สำหรับปีนี้อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ในการประชุมเดือนมีนาคม Fed ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ พร้อมทั้งประกาศลดขนาดการไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลลง 80% เพื่อลดความเข้มงวดของนโยบายการเงิน ซึ่งเป็นการเพิ่มสภาพคล่องของเงินดอลลาร์เข้าสู่ระบบ
นโยบายสภาพคล่องของ Fed ส่งผลต่อ *ตลาดโลก* ในวงกว้าง โดยการเคลื่อนไหวของ ‘ดอลลาร์สหรัฐ’ ที่เป็นสกุลเงินหลัก มักเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดการลงทุนและการซื้อขายทั่วโลก ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์(BTC) และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ
จินชา เจ้า(Jinsha Zhao) และ จี เมี่ยว(J Miao) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยคิงส์ตัน ลอนดอน เปิดเผยในงานวิจัยเมื่อปี 2024 ว่า ‘สภาพคล่องของดอลลาร์สหรัฐ’ มีผลต่อ ‘ราคาบิตคอยน์’ อย่างมีนัยสำคัญ ความสัมพันธ์ดังกล่าวทวีความชัดเจนหลังการระบาดของ COVID-19 โดยพวกเขาชี้ว่า สภาพคล่องเป็นปัจจัยที่อธิบายความผันผวนของราคาบิตคอยน์ได้มากถึง 65%
นักวิเคราะห์มหภาค ลิน อัลเดน(Lyn Alden) แสดง "ความคิดเห็น" ในแง่เดียวกัน โดยระบุว่าบิตคอยน์ทำหน้าที่เป็น “บารอมิเตอร์ของสภาพคล่องระดับโลก” ราคาของมันมีความสัมพันธ์สูงกับปริมาณเงินหมุนเวียนรวมระดับโลก (Global M2) โดยพบว่าราคาบิตคอยน์มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับสภาพคล่องทั่วโลกมากถึง 83% ของเวลา
ทางด้าน Cointelegraph ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจเป็นสัญญาณว่าบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่สองที่อาจเห็นสัญญาณการรีบาวด์อย่างชัดเจน
ความคิดเห็น 0