บริษัทที่ถือครองบิตคอยน์(BTC)มากที่สุดในโลกยังคงเดินหน้าเก็บสะสมสินทรัพย์ต่อเนื่อง แม้เผชิญกับ *ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค* ที่เกิดจาก ‘สงครามการค้า’ ระลอกใหม่
เมื่อวันที่ 24 ผู้นำของบริษัทกลยุทธ์ดิจิทัล ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) เปิดเผยว่าบริษัทได้ลงทุนเพิ่มราว *285.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือประมาณ 4,173 พันล้านวอน เพื่อซื้อบิตคอยน์จำนวน 3,459 เหรียญ ซึ่งเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ราคาประมาณ *82,618 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ*
จากการซื้อครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทครองบิตคอยน์ทั้งหมด *531,644 เหรียญ* คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมราว 36,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 52.56 ล้านล้านวอน โดยมีต้นทุนเฉลี่ยต่อเหรียญอยู่ที่ *67,556 ดอลลาร์สหรัฐ*
ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกต่อเนื่อง โดยใช้เงินลงทุนกว่า *7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือประมาณ 11.24 ล้านล้านวอน เพื่อซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติมภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน
*ความคิดเห็น:* การขยายพอร์ตของบริษัทสะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพของบิตคอยน์ในระยะยาว แม้สภาพเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์จะผันผวนเพียงใด
ราคาหุ้นของบริษัทเองก็หาได้รอดพ้นจากความผันผวนไม่ โดยเมื่อปลายเดือนมีนาคมหุ้นซื้อขายอยู่ที่ 340 ดอลลาร์ ก่อนจะดิ่งลงต่ำกว่า 240 ดอลลาร์ในวันที่ 8 เมษายน หลังเส้นตึงเครียดด้านการค้าขยายวง ทว่าในช่วงต้นสัปดาห์นี้ หุ้นได้ฟื้นขึ้นแตะระดับ 300 ดอลลาร์ สะท้อนการปรับตัวขึ้นราว 15% ในรอบสัปดาห์
อย่างไรก็ดี สัปดาห์ที่ผ่านมา มีความวิตกว่าบริษัทอาจต้องขายบิตคอยน์ออกมา หลังขาดทุนทางบัญชีราว *6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ* ทว่าจากแนวโน้มราคาบิตคอยน์และราคาหุ้นที่พลิกฟื้น ความกังวลเกี่ยวกับการเทขายจึงดูเหมือนจะเบาบางลงในขณะนี้
ความคิดเห็น 0