ธนาคารเอกชนซาโปแบงก์(Xapo Bank) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ยิบรอลตาร์และทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสินทรัพย์บิตคอยน์(BTC) เปิดเผยว่า ปริมาณการซื้อขายบิตคอยน์ในไตรมาสแรกปี 2025 เพิ่มขึ้น 14.2% จากไตรมาสก่อนหน้า ปัจจัยหลักที่ผลักดันความเคลื่อนไหวนี้คือ กลยุทธ์ ‘ซื้อเมื่อราคาลง’ ของลูกค้าระดับสินทรัพย์สูง ท่ามกลางช่วงราคาบิตคอยน์ที่ปรับตัวลดลง
ซาโปแบงก์ระบุว่า “แม้ตลาดจะเผชิญความไม่แน่นอน แต่ลูกค้าระดับไฮเน็ตเวิร์ธยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของบิตคอยน์ และเดินหน้าซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวอย่างมั่นใจ” ทั้งนี้ บิตคอยน์ร่วงลงประมาณ 13% ในช่วงไตรมาสหนึ่งของปี ซึ่งถือเป็นผลงานรายไตรมาสที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018
ในปี 2025 ซาโปแบงก์ได้กลายเป็นธนาคารที่ได้รับใบอนุญาตแห่งแรกในสหราชอาณาจักร ซึ่งเสนออัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากบิตคอยน์และเงินเฟียต และในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ธนาคารยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ใช้บิตคอยน์เป็นหลักประกัน วงเงินสูงสุดถึง 1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 146 ล้านบาท)
เงินฝากยูโรของธนาคารก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยขยายตัวถึง 50% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซาโปแบงก์วิเคราะห์ว่าการเพิ่มขึ้นนี้สะท้อนความกังวลของตลาดต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ และข้อสงสัยเกี่ยวกับสถานะของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินมหาอำนาจ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบาย ‘วันปลดปล่อย (Liberation Day)’ ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศจะเริ่มใช้ในเดือนเมษายน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผล
ในขณะเดียวกัน เงินฝากในสเตเบิลคอยน์ก็มีการเปลี่ยนแปลง โดย USDC เพิ่มขึ้น 19.8% ขณะที่เทเทอร์(USDT) ลดลง 13.4% ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มที่ตลาดคริปโตในยุโรปเริ่มจำกัดการให้บริการเทเทอร์ เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบ MiCA ที่เข้มงวดมากขึ้น
การ์ดี ไชต์(Gadi Chait) หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของซาโปแบงก์กล่าวว่า “แม้บิตคอยน์จะมีความผันผวนในระยะสั้น แต่คุณค่าสำคัญของมันในฐานะสินทรัพย์แกนหลักยังคงอยู่” พร้อมเสริมว่า “การมุ่งเน้นผลตอบแทนระยะยาวคือหัวใจของโอกาสที่แท้จริงของบิตคอยน์”
ความไม่แน่นอนในตลาดช่วงต้นปีนี้ยังขยายผลถึงตลาดซื้อขายดิจิทัล โดยบิตเก็ต(Bitget) แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล รายงานว่าปริมาณการซื้อขายรวมในไตรมาสแรกพุ่งแตะ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 3,066 ล้านล้านบาท) โดยเฉพาะปริมาณการซื้อขายแบบสปอตที่เพิ่มขึ้นถึง 159% อยู่ที่ 387,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 565 ล้านล้านบาท)
ฐานผู้ใช้งานของบิตเก็ตก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ใช้งานใหม่จากแพลตฟอร์มศูนย์กลางกว่า 4.89 ล้านราย และอีก 15 ล้านคนที่เข้าร่วมผ่านกระเป๋าเงินบิตเก็ต ทำให้ยอดผู้ใช้งานทั่วโลกทะลุ 120 ล้านราย แกรซี เฉิน(Gracy Chen) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบิตเก็ตกล่าวว่า “เราจะเดินหน้าเร่งขยายระบบนิเวศ Web3 โดยมีรากฐานจากโครงสร้างพื้นฐานระดับสถาบัน”
นอกจากนี้ บิตเก็ตยังเปิดเผยว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทได้ให้ความช่วยเหลือการเงินแก่บายบิท(Bybit) ที่ประสบเหตุด้านความปลอดภัย โดยปล่อยกู้ ETH จำนวน 40,000 หน่วย (คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.46 แสนล้านบาท) โดยไม่มีดอกเบี้ยและไม่ใช้หลักประกัน ซึ่งก็ได้รับเงินคืนครบถ้วนแล้ว เฉินกล่าวว่า “เรายืนหยัดสนับสนุนโดยไม่ลังเล และสิ่งนั้นได้สะท้อนกลับมาเป็นความไว้วางใจ” พร้อมยืนยันถึงจิตวิญญาณแห่งการช่วยเหลือกันในอุตสาหกรรมคริปโต
ความคิดเห็น 0