นักลงทุนรายใหญ่โอน ‘อีเธอเรียม(ETH)’ มูลค่ากว่า 470 ล้านบาทเข้าสู่กระดานซื้อขายอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 14 แพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชน Spot On Chain รายงานว่า นักลงทุนอีเธอเรียม(ETH) รายใหญ่ได้โอนเหรียญจำนวนกว่า 20,000 ETH (มูลค่าประมาณ 470 ล้านบาท) เข้าสู่กระดานซื้อขายคราเคน(Kraken) ซึ่งนับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกครั้งหลังจากเมื่อเดือนมกราคมก็เคยโอนเข้าไปแล้ว 20,000 ETH เช่นเดียวกัน มูลค่าราว 970 ล้านบาท
ข้อมูลจาก Spot On Chain ระบุว่านักลงทุนรายนี้ยังคงถือครองอีเธอเรียมอยู่กว่า 30,874 ETH (ประมาณ 720 ล้านบาท) และคาดว่าทำกำไรจากการซื้อขายไปแล้วประมาณ 104 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,490 ล้านบาท โดยเหรียญเหล่านี้ส่วนหนึ่งเคยถูกถอนจากคราเคนในช่วงตลาดขาลงระหว่างวันที่ 1-9 กันยายน 2022 จำนวน 120,874 ETH (มูลค่าประมาณ 2,850 ล้านบาทในตอนนั้น) ก่อนทยอยขายออกตามจังหวะราคาที่ลดลง
นอกจากนี้ Spot On Chain ยังเปิดเผยข้อมูลอีกชุดเมื่อวันที่ 11 ว่า มีนักลงทุนหน้าใหม่รายหนึ่งเริ่มสะสมอีเธอเรียมด้วยการสร้างกระเป๋าเงินใหม่และถือครองแล้ว 9,610 ETH (มูลค่าประมาณ 220 ล้านบาท) นักลงทุนรายนี้ถอน 5,000 ETH จากคราเคน มาใช้เป็นหลักประกันเพื่อกู้ยืม USDS มูลค่า 7 ล้านดอลลาร์ผ่านโปรโตคอล Spark จากนั้นนำเงินที่ได้มากลับมาซื้อเพิ่มอีก 4,610 ETH ซึ่งถูกวิเคราะห์ว่าเป็น ‘กลยุทธ์ถือฝั่ง Long’ ของอีเธอเรียม
แม้ว่าราคาอีเธอเรียมเทียบกับบิตคอยน์(BTC) จะอยู่ในแนวโน้มขาลงมาตั้งแต่กันยายน 2022 โดยนักวิเคราะห์ด้านคริปโตอย่าง เจมส์ เช็ค ชี้ว่า อีเธอเรียมมีผลตอบแทนต่ำกว่าบิตคอยน์ถึง 85% ของช่วงเวลาทั้งหมด อย่างไรก็ตาม อีเธอเรียมสามารถลด ‘ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม’ ได้ ส่งผลให้ยังคงได้เปรียบในแง่ของต้นทุน แม้ว่าจะประสบความท้าทายในการดึงดูดผู้ใช้งานให้เพิ่มขึ้นก็ตาม โดยจํานวน 'Active Address' แทบไม่เปลี่ยนแปลงในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
อีเธอเรียมยังเตรียมตัวสำหรับการอัปเกรด “Pectra” ในวันที่ 7 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ โดยจะมีการปรับเพิ่มปริมาณสเตคสูงสุดต่อผู้ตรวจสอบ จากเดิม 32 ETH เป็น 2,048 ETH ซึ่ง *ความคิดเห็น* ของอาร์เตมี พาร์ชาคอฟ (Artemii Parshakov) จาก P2P.org มองว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยขยายการใช้งานและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดที่สำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่ม ‘นักลงทุนสถาบัน’ ที่อาจปรับกลยุทธ์บริหารการสเตคอีเธอเรียมครั้งใหญ่
ความคิดเห็น 0