ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ออนเชนอย่างลูคเชน พบว่ามีกระเป๋าเงิน 5 ใบเข้าลงทุนจำนวนรวมกว่า 4.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 60.7 พันล้านวอน) ภายในเวลาเพียง 8 ชั่วโมง เพื่อเข้าซื้อเหรียญมีมชื่อดังอย่างเปเป้(PEPE) จำนวนมากถึง 611 พันล้านโทเคน สร้างความน่าสนใจเนื่องจากกระเป๋าเงินเหล่านี้เคยถอนเหรียญอีเธอเรียม(ETH) ออกมาจากทอร์นาโดแคชเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มักถูกตั้งข้อสังเกตว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินโดยแฮกเกอร์
เปเป้(PEPE) ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นมีมคอยน์ลำดับที่ 3 โดยมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ เคยสร้างสถิติพุ่งแรงที่สุดหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ ล่าสุด ราคาจากระดับ 0.00001 ดอลลาร์ พุ่งแตะจุดสูงสุดที่ 0.000028 ดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ปัจจัยบวกอย่างการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้งานและการลิสต์บนแพลตฟอร์มซื้อขายต่าง ๆ เป็นแรงผลักสำคัญที่ทำให้ราคาเหรียญปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความนิยมของเปเป้เริ่มซาลงหลังจากที่ทรัมป์เปิดตัวเหรียญมีม TRUMP และการมาของฟาร์ตคอยน์(FARTCOIN) ซึ่งราคาพุ่งแรงในช่วงไม่นานมานี้ ส่งผลให้ราคาเปเป้ลดลงกว่า 75% จากจุดสูงสุด แต่ในสัปดาห์ล่าสุด ราคาได้ปรับตัวขึ้นมา 13%
แม้จะเผชิญแนวโน้มขาลงมาเป็นเวลาหลายเดือน นักวิเคราะห์ยังคงมีมุมมองบวกต่อทิศทางราคาเปเป้ในอนาคต โดยนักวิเคราะห์ชื่อ BOBO ระบุว่าเปเป้ได้สร้างรูปแบบ ‘W’ บนกราฟราคาจากหลายจุดต่ำ และหากสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 0.000009 ดอลลาร์ จากราคาปัจจุบันที่ 0.0000071 ดอลลาร์ได้ (เพิ่มขึ้นประมาณ 25%) จะเป็นการยืนยันสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม
ขณะเดียวกัน บิตคอยน์เซนเซอร์ส คาดการณ์ว่าราคาเปเป้กำลังเคลื่อนที่เป็นไซเคิลขนาดย่อม และเชื่อว่ารอบการพุ่งขึ้นรอบถัดไปจะเริ่มในเดือนสิงหาคม 2025 โดยตั้งเป้าราคาที่ระดับ 0.00009 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 1,100% จากระดับราคาปัจจุบัน ‘ความคิดเห็น’ อย่างไรก็ตาม ตลาดมีมคอยน์ยังคงผันผวนสูงและควรระมัดระวังในการลงทุน
ความคิดเห็น 0