ราคาบิตคอยน์(BTC) อาจเผชิญแรงกดดันระยะสั้น หลังจากตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐส่งสัญญาณตกต่ำรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจที่ซบเซาและความกังวลด้านการลงทุนที่เริ่มขยายตัว
เมื่อวันที่ 17 (เวลาท้องถิ่น) ธนาคารกลางสาขาฟิลาเดลเฟียของสหรัฐเผยรายงานดัชนีกิจกรรมการผลิตลดลงอย่างหนัก โดยเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 2020 โดยดัชนีดังกล่าวอ้างอิงจากการสำรวจผู้ผลิตกว่า 250 รายในสหรัฐ ซึ่งชี้ชัดว่าตัวชี้วัดสำคัญทั้งด้าน ‘การผลิต’, ‘คำสั่งซื้อใหม่’ และ ‘การจัดส่ง’ ต่างลดลงพร้อมกัน สะท้อนความคาดหวังด้านการเติบโตในช่วง 6 เดือนข้างหน้าที่ถดถอยลงอย่างมาก
บิทยูนิกซ์(Bitunix) แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโท มองว่า “ข้อมูลภาคการผลิตรอบนี้อาจกดดันราคาบิตคอยน์ในระยะสั้น” อย่างไรก็ตาม ทางแพลตฟอร์มระบุเพิ่มเติมว่า หากบิตคอยน์สามารถรักษาระดับราคาไว้เหนือ ‘83,000 ดอลลาร์สหรัฐ’ (ราว 1,212,000 บาท) ได้ ก็ยังมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นมา และแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง
ณ วันที่ 18 ราคาบิตคอยน์อยู่ที่ระดับประมาณ ‘84,000 ดอลลาร์’ (ราว 1,226,400 บาท) แม้ว่าจะยังมีความเสี่ยงจากการปรับฐานราคา แต่ตราบใดที่แนวรับสำคัญยังไม่ถูกทำลาย ก็ยังมีความหวังสำหรับการปรับขึ้นในรอบถัดไป
แม้ตัวเลขภาคการผลิตที่ตกต่ำจะสร้างแรงสั่นคลอนในตลาด แต่สิ่งที่น่าจับตามองอีกประการหนึ่งคือ นโยบายกำหนดภาษีนำเข้าสูงของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจยิ่งซ้ำเติมต้นทุนการผลิตของธุรกิจในประเทศ ฉุดการลงทุนและชะลอการบริโภคในวงกว้าง ความกังวลต่อ ‘ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ’ เช่นนี้ มักส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิตคอยน์ ซึ่งต้องการสภาวะตลาดที่มั่นคงและมุมมองการลงทุนที่เปิดกว้างในระดับหนึ่งจึงจะเกิดการขยายตัว ความคิดเห็น: ภาพรวมของตลาดบิตคอยน์ในช่วงนี้จึงมีลักษณะ “ลุ้นระยะสั้น-มั่นใจระยะยาว” ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น.
ความคิดเห็น 0