คอมพิวเตอร์ควอนตัมกำลังก้าวขึ้นเป็นภัยคุกคามใหม่ต่อเครือข่าย *บิตคอยน์(BTC)* โดยบริษัทวิจัยควอนตัม *Project 11* ได้จัดการแข่งขัน "QDay Prize" ตั้งแต่วันที่ 17 ซึ่งมอบรางวัลเป็น *1 บิตคอยน์* (ราว 1.42 ล้านบาท) ให้แก่ทีมหรือบุคคลที่สามารถถอดรหัสคีย์เข้ารหัสของบิตคอยน์ที่ง่ายได้สำเร็จ การแข่งขันนี้จะดำเนินไปจนถึงวันที่ 6 เมษายน 2026 ครอบคลุมการถอดรหัสคีย์แบบ *ECC* ตั้งแต่ 1 ถึง 25 บิต
อเล็กซ์ พรูเดน จาก Project 11 ระบุว่า จุดประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อทำลายบิตคอยน์ แต่เพื่อแสดงให้เห็นว่าหากคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถถอดรหัสคีย์ขนาดเล็กได้ตั้งแต่ตอนนี้ เราก็ควรเตรียมตัวรับมือ อัลกอริธึมของคอมพิวเตอร์ทั่วไปต้องใช้เวลาหลายร้อยปีในการถอดรหัสคีย์ขนาด 256 บิตของบิตคอยน์ ในขณะที่ *คอมพิวเตอร์ควอนตัม* ที่ใช้ *อัลกอริธึมโชร์(Shor’s algorithm)* อาจทำได้ภายในไม่กี่นาที ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการแอบอ้างลายเซ็น, การรั่วไหลของกุญแจลับ และการขโมยสินทรัพย์
*โซลานา(SOL)* ตอบรับความเสี่ยงนี้ด้วยการเปิดตัวระบบลงชื่อแบบใหม่ในชื่อ ‘*Wintermute’s Vault*’ เมื่อต้นปี โดยใช้ลายเซ็นแบบฐาน *แฮชต้านทานควอนตัม* ขณะที่ *วิตาลิก บูเตอริน* ผู้ร่วมก่อตั้ง *อีเธอเรียม(ETH)* ก็เสนอแนวทางโฟล์กที่ป้องกันการถอดรหัสด้วยควอนตัม แต่สำหรับ *บิตคอยน์* นั้น ยังไม่มีแผนการโฟล์กอย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวโดย Project 11 กำลังผลักดันให้ต้องมีการเตรียมความพร้อมจากชุมชน
อาดัม แบ็ก หนึ่งในนักไซเฟอร์พังค์ที่ถูกอ้างอิงในเอกสารไวท์เปเปอร์ของบิตคอยน์ ชี้ในงานที่ Torino เมื่อวันที่ 18 เมษายน ว่าการโจมตีด้วยควอนตัมอาจเผยให้รู้ว่า *ซาโตชิ นากาโมโตะ* ผู้สร้างบิตคอยน์ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แบ็กเชื่อว่าหากการถอดรหัสด้วยควอนตัมกลายเป็นเรื่องจริง ผู้ถือเหรียญจะต้องย้ายสินทรัพย์ไปยังที่อยู่ที่สามารถต้านทานควอนตัมได้ในอนาคต
แบ็กยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ควอนตัมยังไม่สามารถคุกคามระบบของบิตคอยน์ได้อย่างน่าเชื่อถือ แต่ “อาจจะในอีก 20 ปี” มันจะกลายเป็นภัยจริง ซึ่งหากถึงเวลานั้นชุมชนอาจต้องตัดสินใจยกเลิกการใช้งานที่อยู่เดิม หรือเสี่ยงให้โจรกรรมทางดิจิทัลเกิดขึ้น
เพื่อเตรียมรับมือกับความเสี่ยงดังกล่าว นักพัฒนาบิตคอยน์ชื่อ อากุสติน ครูซ ได้เสนอ *โปรโตคอลการย้ายไปยังที่อยู่ต้านควอนตัม* เมื่อวันที่ 4 เมษายน โดยระบบนี้จะ *บังคับให้ผู้ถือเหรียญต้องโอนไปยังที่อยู่อื่นภายในเวลาที่กำหนด* หากไม่ดำเนินการตามกำหนด จะไม่สามารถส่งเหรียญได้อีกต่อไป ระบบนี้มีเป้าหมายเพื่อลดช่องโหว่ของที่อยู่เก่าที่ไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามจากควอนตัมได้
**ความคิดเห็น**: การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า แม้ภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมจะยังไม่ชัดเจนในปัจจุบัน แต่ก็ถูกมองว่าเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ในระยะยาวสำหรับสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะบิตคอยน์ที่จะต้องปรับตัวหากต้องการรักษาความน่าเชื่อถือในฐานะสินทรัพย์มูลค่าสูง
ความคิดเห็น 0