วิตาลิก บูทาริน ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม(ETH) เสนอแนวคิดเปลี่ยนเครื่องจักรเสมือนของอีเธอเรียมหรือ ‘EVM’ ไปใช้งานสถาปัตยกรรมแบบ RISC-V ซึ่งเป็นระบบโอเพ่นซอร์สในวงการฮาร์ดแวร์ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่าย โดยเฉพาะในด้านการขยายขนาดและความสามารถในการจัดการกับแอปพลิเคชันแบบศูนย์กลางความรู้ (Zero-Knowledge Application)
ข้อเสนอใหม่ของบูทารินถูกเปิดเผยในชุมชน ‘Ethereum Magicians Forum’ โดยชี้ว่าการย้ายไปสู่ RISC-V อาจเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้อีเธอเรียมสามารถ *ลดความซับซ้อน* และ *เพิ่มประสิทธิภาพ* ของ execution layer ได้อย่างมีนัยสำคัญ เขาระบุว่า EVM ในรูปแบบปัจจุบันเริ่มเผชิญข้อจำกัดในการจัดการกับระบบแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนและการประมวลผลหลักฐานแบบ Zero-Knowledge
RISC-V คือสถาปัตยกรรมโอเพ่นซอร์สที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในระดับสูง ด้วยความเบาและยืดหยุ่น บูทารินคาดว่าการเปลี่ยนมาใช้ RISC-V อาจช่วยให้อีเธอเรียมเพิ่มขีดความสามารถการประมวลผลได้มากถึง *100 เท่า* โดยเฉพาะโมดูล ZK-EVM ซึ่งจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการประมวลผลหลักฐานของตรรกะ EVM ปัจจุบัน และจะได้รับประโยชน์อย่างชัดเจนจากแนวทางใหม่นี้
ข้อเสนอของบูทารินระบุแนวทางการรวม RISC-V เข้ากับอีเธอเรียมไว้ 3 แนวทาง ได้แก่
1. รองรับทั้งสัญญาอัจฉริยะแบบ RISC-V และ EVM โดยตรง
2. ใช้ interpreter ที่แปลงรหัส EVM ไปยัง RISC-V เพื่อให้สามารถรันได้
3. นำ interpreter เข้าสู่ระบบอย่างเป็นทางการให้เป็นส่วนหนึ่งของโปรโตคอลอีเธอเรียม
"ความคิดเห็น" นี่อาจเป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหวที่ *รุนแรงที่สุด* ในแผนพัฒนาระยะยาวของอีเธอเรียม และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปรับปรุงขีดความสามารถของเครือข่ายให้รองรับการใช้งานที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในอนาคต
ทางด้านราคาของอีเธอเรียม(ETH) ในปี 2025 มีความผันผวนสูง โดยเปิดปีด้วยราคา 3,337.61 ดอลลาร์ ก่อนร่วงลง -32.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ และ -18.4% ในเดือนมีนาคม ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 9 เมษายน ราคาลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1,474.17 ดอลลาร์ ก่อนฟื้นกลับมาซื้อขายในกรอบ 1,470.53–1,690.67 ดอลลาร์ ล่าสุดราคาปรับตัวขึ้น 3% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และปรับเพิ่ม 0.8% เมื่อสัปดาห์ก่อน
ขณะเดียวกันในช่วงปลายปี 2024 ราคาของอีเธอเรียมเคยพุ่งแรงถึง 66.75% ระหว่างพฤศจิกายนถึงธันวาคม โดยแตะระดับสูงสุดที่ 4,106.71 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม หลังได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก *การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเชิงบวกในสหรัฐฯ*
ความคิดเห็น 0