Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ศึกชิงเบอร์หนึ่ง! อัพบิต-บิทซัมงัดกลยุทธ์สู้ศึกตลาดคริปโตเกาหลีใต้ปี 2025

Wed, 23 Apr 2025, 12:09 pm UTC

ศึกชิงเบอร์หนึ่ง! อัพบิต-บิทซัมงัดกลยุทธ์สู้ศึกตลาดคริปโตเกาหลีใต้ปี 2025 / Tokenpost

การแข่งขันเพื่อความอยู่รอดในตลาดคริปโตของเกาหลีใต้ปี 2025 กำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดยการเปรียบเทียบระหว่างแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง *อัพบิต* และ *บิทซัม* กำลังกลายเป็นตัวชี้วัดถึงคุณภาพและความเชื่อมั่นของตลาดคริปโตในระดับประเทศ

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) เอกซิริสต์(Exilist) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยระดับโลก เปิดเผยรายงานฉบับล่าสุดที่วิเคราะห์เปรียบเทียบ *อัพบิต* และ *บิทซัม* บน 10 ตัวชี้วัดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจ ความมั่นคงของสินทรัพย์ การตอบสนองต่อกฎระเบียบ และประสบการณ์ของผู้ใช้งาน โดยชี้ว่าความ *น่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มโดยรวม* ไม่ใช่แค่ปริมาณการซื้อขาย จะกลายเป็นปัจจัยหลักในการอยู่รอดของตลาดในระยะยาว

จากรายงาน ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2025 *อัพบิต* มีบัญชีสะสม 9.82 ล้านบัญชี ส่วน *บิทซัม* มี 4.9 ล้านบัญชี คงสถานะเป็นสองผู้นำในตลาดเกาหลีใต้อย่างเหนียวแน่น ด้านปริมาณซื้อขายในช่วง 24 ชั่วโมง *อัพบิต* ทำได้ประมาณ 3.7 พันล้านดอลลาร์ แม้ครองอันดับหนึ่ง แต่ก็แสดงความเปราะบางจากการลดลงของกิจกรรมหลังถูกหน่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน (FIU) สั่งลงโทษ ขณะที่ *บิทซัม* ไล่ตามมาด้วย 1.1 พันล้านดอลลาร์ พร้อมผลักดันแคมเปญการจูงใจ เช่น การลิสต์เหรียญใหม่และแอร์ดรอป เพื่อขยายส่วนแบ่งตลาด

ในด้านกลยุทธ์การลิสต์เหรียญ *บิทซัม* มีท่าทีเชิงรุก ด้วยการเพิ่มเหรียญใหม่ 33 รายการในช่วงสองเดือนแรกของปี แต่มีอัตราการเพิกถอนสูงถึง 27% ซึ่ง *เอกซิริสต์* เตือนว่าความรวดเร็วอาจได้ประโยชน์เชิงการตลาดในระยะสั้น แต่หากขาดการคัดกรอง อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาว

เรื่องความมั่นคงทางการเงินก็แสดงความแตกต่างอย่างชัดเจน โดยบริษัทดูนามูผู้ให้บริการ *อัพบิต* ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลรวมมูลค่าประมาณ 2.5 ล้านล้านวอน ขณะที่ *บิทซัม* เหลือสินทรัพย์เพียง 96.5 พันล้านวอน ซึ่งสะท้อนภาระค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและการดำเนินงานที่เร่งให้เงินสดหายเร็วขึ้น โครงสร้างทางการเงินนี้อาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อศักยภาพในการรับมือกับแรงกระแทกจากภายนอก

ในการตอบสนองต่อกฎระเบียบ *อัพบิต* เคลื่อนไหวรวดเร็วหลังถูก FIU ลงโทษ โดยได้รับคำสั่งศาลให้ระงับการลงโทษชั่วคราวพร้อมทั้งปรับปรุงระบบป้องกันการฟอกเงินทันที ขณะที่ *บิทซัม* กำลังถูกตรวจสอบในประเด็นเดียวกัน โดย *เอกซิริสต์* เน้นว่า ความเชื่อมั่นของแพลตฟอร์มไม่ได้มาจากการ ‘ไม่มีการลงโทษ’ แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการฟื้นฟูและความโปร่งใสด้านการควบคุมภายในเมื่อเกิดวิกฤติ

นอกจากนี้ *อัพบิต* ยังได้เปรียบในด้านอื่นๆ เช่น การร่วมมือกับเคแบงก์ การเปิดศูนย์คุ้มครองผู้ลงทุน รวมถึงการขยายตลาดโดยอิงกับใบอนุญาตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ *บิทซัม* เน้นกลยุทธ์เชิงรุก เช่น การตลาดด้วยสิ่งจูงใจจำนวนมาก การสร้างคอมมูนิตี้ และการขยายสู่ตลาดต่างประเทศผ่านช่องทางที่ไม่ใช่รูปแบบดั้งเดิม

สถานการณ์การ IPO ก็เดินไปในคนละทิศ *อัพบิต* กำลังวางแผนเข้า *ตลาดหุ้นสหรัฐฯ* ด้วยกลยุทธ์ระยะยาว โดยการจ่ายเงินปันผลจำนวนมากล่าสุดถูกมองว่าเป็นการแสดงศักยภาพของสินทรัพย์ก่อนเข้าตลาด ส่วน *บิทซัม* หวังกลับมาผลักดันการเข้าตลาดหุ้นภายในประเทศอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง แม้จะยังเจอความท้าทายเรื่องโครงสร้างองค์กรและระบบบัญชี

*เอกซิริสต์* สรุปว่า ไม่ใช่ตัวเลขระยะสั้นแต่เป็นความทนทานเชิงโครงสร้างที่สะท้อน ‘ศักยภาพที่แท้จริง’ ของแพลตฟอร์ม โดยให้ความเห็นว่า “แพลตฟอร์มที่พร้อมเน้นความยั่งยืน มากกว่าความเร็ว และไว้ใจได้มากกว่าความสามารถในการขยาย จะเป็นผู้ชนะในระยะยาว”

เปรียบเทียบระหว่าง *อัพบิต* และ *บิทซัม* แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมคริปโตของเกาหลีใต้กำลังเปลี่ยนผ่านจากการเติบโตเชิงปริมาณเข้าสู่ยุคของความเป็นมืออาชีพและคุณภาพอย่างแท้จริง และคำถามที่เหลืออยู่คือ— *ใครจะเป็นผู้รอดในระยะยาว*?

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1