ทางการรัสเซียอยู่ระหว่างการพิจารณาออกมาตรการห้ามซื้อคริปโตด้วยเงินสด ในขณะที่แพลตฟอร์มรับแลกเปลี่ยนคริปโตชื่อดังอย่าง *มอสกา(Mosca)* ที่ตั้งอยู่ในศูนย์ธุรกิจนานาชาติกลางกรุงมอสโก กำลังเผชิญกับการสืบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังลูกค้ารายหนึ่งตกเป็นผู้เสียหายจากคดีฉ้อโกงมูลค่าหลายล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 23 นักพัฒนาอาวุโสของมอสกา ดมิทรี ทิตาเรนโก(Dmitry Titarenko) เปิดเผยกับ Cointelegraph ระหว่างงาน *Blockchain Forum 2025* ที่กรุงมอสโกว่า ทางการได้ตรวจค้นสำนักงานของแพลตฟอร์มเพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลลูกค้า โดยย้ำว่าเป็นขั้นตอน ‘การตรวจสอบทั่วไป’ ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
แต่การบุกค้นครั้งนี้มีขึ้นไม่นานหลังสื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้เสียหายจำนวนมากถูกหลอกให้ส่งมอบ ‘เงินสด’ มูลค่าหลายล้านดอลลาร์ให้แก่กลุ่มมิจฉาชีพผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว รายละเอียดขั้นสุดท้ายของคดี เช่น จำนวนเงิน ความเชื่อมโยงถึงลูกค้ารายใด ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลรัสเซียเร่งจัดระเบียบวงการคริปโต โดยเฉพาะในส่วนของการซื้อขาย *เทเธอร์(USDT)* ด้วยเงินสด ซึ่งกลายเป็นช่องทางหลักในขบวนการฟอกเงินและฉ้อโกงในระดับประเทศ *เยฟเกนี มาชารอฟ(Evgeny Masharov)* แห่งคณะกรรมาธิการภาคประชาชน ระบุว่า “การแปลงเงินสดเป็นคริปโตผ่านแพลตฟอร์มกำลังกลายเป็นช่องโหว่ใหญ่ของอาชญากรรมทางการเงิน” พร้อมแนะให้ ‘ห้าม’ การใช้เงินสดซื้อคริปโตอย่างเด็ดขาด
ที่ผ่านมา รัสเซียเผชิญกับการเพิ่มขึ้นของ *อาชญากรรมทางโทรศัพท์* ที่หลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินสด ซึ่งต่อมาจะถูกแปลงเป็นคริปโตอย่างรวดเร็วเพื่อลบลายเส้นทางการเงิน ความเคลื่อนไหวในการสอบสวนมอสกาครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น *ตัวอย่างสำคัญ* ที่ช่วยผลักดันการพัฒนากฎระเบียบใหม่ของรัฐบาลเพื่อจัดการกับการใช้คริปโตในกิจกรรมผิดกฎหมาย
*ความคิดเห็น*: มาตรการที่รัสเซียกำลังพิจารณาอาจส่งแรงกระเพื่อมไปสู่ตลาด OTC ทั่วโลก โดยเฉพาะพื้นที่ที่การใช้เงินสดในการซื้อขายคริปโตยังไม่อยู่ภายใต้กฎหมาย หากเกิดความเปลี่ยนแปลงในระดับนโยบายอย่างจริงจัง อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้ระบบการเงินดิจิทัลโปร่งใสมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0