เอลซัลวาดอร์ยังคงเดินหน้าซื้อบิตคอยน์(BTC)อย่างต่อเนื่อง แม้ว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)จะออกมาส่งสัญญาณในเชิงปฏิเสธ โดยข้อมูลจากบล็อกเชนยืนยันได้ว่ารัฐบาลมีการซื้อเพิ่มจริง
ตามข้อมูลล่าสุดที่สำนักงานบิตคอยน์ของเอลซัลวาดอร์(Bitcoin Office) เปิดเผย เมื่อวันที่ 27 เมษายน รัฐบาลได้ซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 7 เหรียญภายในหนึ่งสัปดาห์ คิดเป็นมูลค่าราว 650,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.49 ล้านบาท) ทั้งนี้ เอลซัลวาดอร์ถือเป็นประเทศแรกในโลกที่ประกาศใช้บิตคอยน์เป็นเงินตราถูกกฎหมาย และได้เพิ่มการถือครองอย่างต่อเนื่องนับจากนั้น
ในประเด็นนี้ โรดริโก้ วัลเดส(Rodrigo Valdes) ผู้อำนวยการภูมิภาคซีกโลกตะวันตกของ IMF ได้กล่าวในงานแถลงข่าวล่าสุดว่า รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงเดิมในการหยุดซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติม คำพูดของวัลเดสดูเหมือนจะสื่อว่าเอลซัลวาดอร์เลิกซื้อบิตคอยน์แล้ว แต่ข้อมูลธุรกรรมบนบล็อกเชนกลับชี้ให้เห็นความจริงตรงกันข้าม
เอลซัลวาดอร์นำนโยบายใช้บิตคอยน์เป็นเงินตราถูกกฎหมายตั้งแต่เดือนกันยายน 2021 ภายใต้การนำของประธานาธิบดีนายิบ บุเคเล(Nayib Bukele) และต่อเนื่องจากนั้นได้มีการซื้อบิตคอยน์อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นเช่นไร โดยบุเคเลเคยประกาศตั้งแต่ปีก่อนว่า จะทำการซื้อบิตคอยน์วันละ 1 เหรียญ การซื้อเพิ่มอีก 7 เหรียญครั้งนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่าแผนดังกล่าวยังคงดำเนินอยู่
ที่ผ่านมา IMF เคยแสดงความกังวลหลายครั้งเกี่ยวกับนโยบายบิตคอยน์ของเอลซัลวาดอร์ โดยระบุว่าอาจกระทบต่อเสถียรภาพการเงินและการคลังของประเทศ และมีการคาดการณ์กันว่าหากเอลซัลวาดอร์ขอความช่วยเหลือทางการเงินฉุกเฉินจาก IMF อาจถูกกดดันให้ปรับเปลี่ยนนโยบายบิตคอยน์ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ยังคงยึดมั่นในกลยุทธ์คริปโตของตน แม้จะเผชิญแรงกดดันจากภายนอก
การเดินหน้าซื้อบิตคอยน์ของเอลซัลวาดอร์ยังเป็นประเด็นที่น่าจับตาว่า จะส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตและเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ในอนาคตอย่างไร ‘บิตคอยน์(BTC)’ และ ‘เอลซัลวาดอร์’ ยังคงเป็นชื่อที่ไม่อาจมองข้ามในเส้นทางการเปลี่ยนแปลงทางการเงินของโลก ความคิดเห็น: ท่าทีแน่วแน่ของเอลซัลวาดอร์อาจเป็นการปูทางให้ประเทศอื่นๆ พิจารณาแนวทางที่กล้าหาญในการใช้คริปโตเช่นกัน
ความคิดเห็น 0