ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ผู้ก่อตั้งบริษัทสแตรทิจี(Strategy) ได้เดินหน้าเพิ่มการถือครองบิตคอยน์(BTC) อย่างต่อเนื่อง แม้ราคาบิตคอยน์จะผันผวนระยะสั้น โดยบริษัทได้เข้าซื้อเพิ่มเติมในช่วงที่ราคามีการตกลงและฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
เมื่อวันที่ 28 เมษายน ตามการประกาศอย่างเป็นทางการ สแตรทิจีได้ลงทุนอีก 1.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2 ล้านล้านวอน) เพื่อซื้อบิตคอยน์จำนวน 15,355 เหรียญ โดยมีราคาเฉลี่ยการซื้ออยู่ที่ ‘92,737 ดอลลาร์สหรัฐ’ ต่อบิตคอยน์ โดยพิจารณาจากราคาตลาดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าการซื้อในครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงปลายสัปดาห์
จากการซื้อเพิ่มครั้งนี้ ทำให้จำนวนบิตคอยน์ที่สแตรทิจีถือครองพุ่งขึ้นเป็น 553,555 เหรียญ โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 37.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 53.8 ล้านล้านวอน) และมีต้นทุนเฉลี่ยที่ ‘68,459 ดอลลาร์สหรัฐ’ ต่อเหรียญ ปัจจุบัน ราคาบิตคอยน์อยู่เหนือระดับ ‘95,000 ดอลลาร์สหรัฐ’ ส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์บิตคอยน์ของสแตรทิจีเพิ่มขึ้นเป็น 52.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 74.8 ล้านล้านวอน) สร้างกำไรที่ยังไม่รับรู้เกิน ‘15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ’ หรือราว 21.3 ล้านล้านวอน
สแตรทิจียังคงเดินหน้ากลยุทธ์การสะสมบิตคอยน์ในระยะยาวอย่างเหนียวแน่น แม้ช่วงหนึ่งราคาหุ้นบริษัท (MSTR) เคยร่วงลงถึง 240 ดอลลาร์สหรัฐ จากความกังวลเรื่องการขึ้นภาษีการค้า แต่ล่าสุดราคาหุ้นได้ฟื้นตัวและปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ ‘370 ดอลลาร์สหรัฐ’ เพิ่มขึ้นกว่า 27.4% ภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือน
‘การสะสมบิตคอยน์อย่างต่อเนื่องของสแตรทิจีแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ในระยะยาว’ — ความคิดเห็น
ความคิดเห็น 0