คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) และไบแนนซ์(Binance) ได้ยื่นคำร้องร่วมเพื่อระงับกระบวนการทางกฎหมายเป็นเวลา 60 วัน คำร้องดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตั้งหลักต่อการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบที่อาจเกิดจากการจัดตั้ง ‘หน่วยงานพิเศษด้านคริปโต’ ของ SEC ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญภายใต้การบริหารของ มาร์ก อุเยดะ(Mark Uyeda) รักษาการประธาน SEC
SEC และไบแนนซ์ยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อวันที่ 10 (เวลาสหรัฐฯ) โดยให้เหตุผลว่าการดำเนินงานของหน่วยงานพิเศษดังกล่าวอาจมีผลต่อการตัดสินคดีนี้อย่างมีนัยสำคัญ แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมเชื่อว่า การตัดสินใจนี้อาจเป็นแนวทางให้บริษัทคริปโตอื่นๆ เช่น ริปเปิล(XRP), คอยน์เบส(Coinbase) และคราเคน(Kraken) หาทางบรรลุข้อตกลงกับ SEC ในลักษณะเดียวกัน
ทั้งสองฝ่ายวางแผนที่จะประเมินความคืบหน้าหลังช่วงเวลา 60 วัน และยื่นรายงานร่วมเพื่อพิจารณาขั้นตอนต่อไป SEC เน้นย้ำว่าการระงับกระบวนการทางกฎหมายจะช่วยให้ทุกฝ่ายมีโอกาสที่เป็นธรรม ลดความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น และช่วยประหยัดทรัพยากร
ทางด้านไบแนนซ์ได้ออกแถลงการณ์ต้อนรับการตัดสินใจนี้ โฆษกของไบแนนซ์กล่าวว่า “เรารู้สึกขอบคุณอุเยดะที่ให้ความสำคัญกับการกำหนดกรอบกฎหมายและกฎระเบียบที่เหมาะสมกับสินทรัพย์ดิจิทัล” พร้อมเสริมว่ากฎระเบียบที่ชัดเจนจะเป็นประโยชน์ต่อ ‘ยุคทองใหม่’ ของตลาดคริปโต
หลังจากเข้ารับตำแหน่งรักษาการประธาน SEC อุเยดะได้เดินหน้าจัดตั้ง ‘หน่วยงานพิเศษด้านคริปโต’ โดยมี เฮสเตอร์ เพียร์ซ(Hester Peirce) กรรมการ SEC เป็นผู้นำ เป้าหมายหลักของหน่วยงานนี้คือการพัฒนากรอบกฎหมายที่ชัดเจนขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล เพียร์ซซึ่งได้รับฉายาว่า ‘Crypto Mom’ เนื่องจากจุดยืนที่สนับสนุนคริปโตมาโดยตลอด ชี้ว่าแนวทางเดิมของ SEC สร้างความคลุมเครือทางกฎหมายและอุปสรรคต่อธุรกิจ จึงหวังว่าหน่วยงานใหม่นี้จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้
การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบของตลาดคริปโตในสหรัฐฯ ในขณะที่การหารือระหว่าง SEC และบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยังดำเนินต่อไป นักลงทุนต่างจับตามองความเป็นไปได้ที่กรอบกฎหมายที่ชัดเจนขึ้นอาจเกิดขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น 0