สหรัฐฯ เตรียมสร้างคลังสำรองบิตคอยน์(BTC) ระดับชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อไม่ให้ตามหลังประเทศอื่นในเวทีสินทรัพย์ดิจิทัล โบ ไฮน์ส ที่ปรึกษาคริปโตของทำเนียบขาว เปิดเผยกับนิตยสาร Bitcoin Magazine เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ขณะนี้หลายประเทศกำลังเร่งสะสมบิตคอยน์ ทำให้สหรัฐฯ ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่การแข่งขันนี้อย่างจริงจัง
ไฮน์สเปรียบการสะสมบิตคอยน์ของแต่ละประเทศกับ‘การแข่งขันด้านอวกาศยุคใหม่’ พร้อมระบุว่า รัฐบาลต่างชาติหลายแห่งกำลังเก็บบิตคอยน์ในฐานะทรัพย์สินระยะยาวอย่างเงียบ ๆ ส่งผลให้สหรัฐฯ ต้องเร่งเดินหน้าจัดตั้ง ‘คลังสำรองบิตคอยน์เชิงกลยุทธ์’ ให้ได้โดยเร็ว
แผนดังกล่าวจะดำเนินการร่วมกับกระทรวงการคลังสหรัฐฯ โดยเริ่มจากการตรวจสอบปริมาณบิตคอยน์ที่รัฐบาลถือครองอยู่ในปัจจุบัน และพัฒนาแนวทางการจัดซื้อเพิ่มเติมที่ไม่กระทบงบประมาณชาติ ไฮน์สกล่าวว่าการกระทำต้องรวดเร็วและพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเวลาผ่านไป
นักเทคโนโลยีชื่อดัง เช่น เดวิด แซคส์ ก็สนับสนุนแผนนี้เช่นกัน ไฮน์สเชื่อว่า ด้วยความร่วมมือระหว่างผู้นำด้านเทคโนโลยีและกระทรวงการคลัง สหรัฐฯ จะสามารถเป็นผู้นำในเรื่องการใช้งาน การขุด และการกำกับดูแลบิตคอยน์อย่างชัดเจน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายใหญ่ของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการพาสหรัฐฯ ก้าวขึ้นเป็น 'เมืองหลวงของโลกด้านคริปโต' โดยไฮน์สระบุว่า ทรัมป์มีเป้าหมายในการเปลี่ยนสหรัฐฯ ให้เป็น ‘ซูเปอร์พาวเวอร์แห่งบิตคอยน์ชาติแรกของโลก’
เขายังกล่าวเสริมว่า บิตคอยน์คือ ‘ทองคำดิจิทัล’ ที่หายาก มีมูลค่า และจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นตามกาลเวลา
ช่วง 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ ได้มีการดำเนินนโยบายสำคัญหลายด้าน หนึ่งในนั้นคือการออกคำสั่งยุติโครงการ ‘Operation Chokepoint 2.0’ ที่เคยถูกวิจารณ์ว่ามุ่งปราบปรามบริษัทคริปโตอย่างไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ก็ได้ถอนฟ้องคดีบางส่วน และสถาบันการเงินของรัฐเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดต่อธุรกิจคริปโต
ด้านแมทธิว ไพน์ส เลขาธิการสถาบันนโยบายบิตคอยน์ของสหรัฐฯ ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ปัจจุบัน รัฐบาลสหรัฐฯ ถือครองบิตคอยน์ที่ถูกขุดขึ้นมาทั้งหมดประมาณ 35 - 40% ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูงมาก เมื่อเทียบกับทองคำซึ่งสหรัฐฯ ถือครองเพียง 8 - 10% ของปริมาณที่มีอยู่บนโลก ความเป็นเจ้าของในระดับนี้แสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าในตลาดบิตคอยน์ และเสริมเหตุผลให้การสร้างคลังสำรองระดับชาติมีความสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0