ราคาของ *ไพคอยน์(PI)* ร่วงลงมากกว่า 5% ในช่วงล่าสุด แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยปรับขึ้นไปแตะระดับ 0.62 ดอลลาร์ แต่กลับถูกขายออกและเข้าสู่ทิศทางขาลง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังมองว่ามีโอกาสเกิดการฟื้นตัวหลังเกิดสัญญาณ ‘MACD ตัดขึ้น’ ซึ่งมักเป็นตัวบ่งชี้ว่าตลาดอาจกลับตัวขึ้นในช่วงถัดไป
โครงการ *ไฟเน็ตเวิร์ก(Pi Network)* กำลังกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งจากนักลงทุน หลังมีสัญญาณฟื้นตัวให้เห็น โดยมูลค่าตามราคาตลาดทะลุ 4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงแรงสนับสนุนที่ยังคงแข็งแกร่งจากตลาด
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้จะมี *ไพคอยน์* จำนวน 8.9 ล้านเหรียญที่เข้าสู่ตลาดจากการปลดล็อก ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันต่อราคาทางฝั่งอุปทาน นักวิเคราะห์ แอนดรูว์ กริฟฟิธส์(Andrew Griffiths) ประเมินว่า หากไพคอยน์สามารถฝ่าระดับแนวต้านที่ 0.75–0.78 ดอลลาร์ได้ มีโอกาสขึ้นไปแตะ 1 ดอลลาร์ แต่หากร่วงต่ำกว่าระดับ 0.55 ดอลลาร์ มีแนวโน้มย่อลงไปถึง 0.288 ดอลลาร์ ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่จะถึงนี้จึงนับว่าสำคัญอย่างยิ่ง
ด้านพัฒนาการล่าสุด *แบนค์ชา(Banxa)* ได้รับอนุมัติ KYB (Know Your Business) และเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของ *ไฟเน็ตเวิร์ก* ที่สามารถขยายการเข้าถึงตลาดได้มากขึ้น โดยผู้ใช้งานในกว่า 100 ประเทศสามารถซื้อไพคอยน์ด้วยเงินสดได้โดยตรงผ่านแบนค์ชา ทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นและโอกาสการยอมรับไพคอยน์เพิ่มสูงขึ้น
อีกทั้ง *ไฟเน็ตเวิร์ก* ยังร่วมมือกับธนาคารใหญ่อย่าง *BNP พาริบาส* ในยุโรป เพื่อพัฒนาบริการชำระเงินที่ปลอดภัย รวดเร็ว และต้นทุนต่ำ ผ่านระบบโอเพ่นแบงก์กิ้งและการโอนเงิน SEPA แบบทันที พร้อมกันนี้ *กระเป๋าเมนเน็ต* ก็สามารถเปิดใช้งานได้ง่ายขึ้น ด้วยความร่วมมือจากผู้ให้บริการ KYC รายที่สามเช่นแบนค์ชา ทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกสามารถเข้าร่วมกับบล็อกเชนของไพได้ง่ายขึ้น
ถึงแม้จะมีปัจจัยบวกหลายประการ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายยังมองว่าไพคอยน์ยังเผชิญกับความท้าทายจาก *การขาดการใช้งานจริง* และ *สภาพคล่องต่ำ* ซึ่งอาจกระทบต่อการดึงดูดและรักษาฐานผู้ใช้งาน อย่างไรก็ดี *ดร. อัลท์คอยน์(Dr. Altcoin)* แสดงความเห็นว่า ไฟเน็ตเวิร์กนั้นมีคุณค่าที่หลายคนยังไม่เข้าใจ โดยเปรียบเทียบไพคอยน์เป็น "ขุมทรัพย์ที่ยังไม่ถูกค้นพบ" และอาจกลายเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญของการปฏิวัติวงการเงินดิจิทัลในอนาคต
ความคิดเห็น 0