แรงกดดันจากการขายของวาฬสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคา *บิตคอยน์(BTC)* ปรับตัวลดลง หลังจากพบสัญญาณขายจากช่องว่างราคาพรีเมียมของ *คอยน์เบส* ที่กลายเป็นลบ จากข้อมูลของนักวิเคราะห์ออนเชนชื่อดังจาก *คริปโตควอนท์* ‘เอเบรม ชาร์ต’ ซึ่งระบุว่า ขณะนี้ช่องว่างพรีเมียมของคอยน์เบสอยู่ที่ -5.07 ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาซื้อขาย *บิตคอยน์* ในคอยน์เบสนั้นต่ำกว่าราคาเฉลี่ยในตลาดซื้อขายระดับโลก
สถานการณ์นี้สะท้อนว่ากลุ่มนักลงทุนในสหรัฐฯ เริ่มเทขายมากกว่าการซื้อ โดยส่งผลให้ราคา *บิตคอยน์* ร่วงลงจาก 97,865 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 94,162 ดอลลาร์ในเวลาสั้น ๆ ทั้งนี้ ช่องว่างพรีเมียมของคอยน์เบสถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดด้านจิตวิทยาตลาดที่สำคัญ โดยช่วงก่อนหน้านี้สัญญาณยังเป็นขาขึ้น แต่ล่าสุดได้พลิกกลับมาเข้าสู่แดนลบอีกครั้ง หากค่า gap นี้ยังเป็นลบต่อเนื่อง อาจมีแรงขายเพิ่มอีกและนำไปสู่การปรับฐานของราคา *บิตคอยน์* อีกระลอก
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกลุ่มวาฬในตลาดเทขาย แต่ฝั่งนักลงทุนสถาบันยังเดินหน้าซื้ออย่างต่อเนื่อง โดย *ฟาซาไซด์ อินเวสเตอร์ส* ระบุว่า เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม มีเงินทุนไหลเข้าสู่ ETF ที่อิงกับ *บิตคอยน์* รวมกว่า 425.5 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้ ETF IBIT ของ *แบล็กร็อก* ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยยอดการลงทุนถึง 531.2 ล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกันบริษัทที่ถือครอง *บิตคอยน์* มากที่สุดในโลกอย่าง *ไมโครสตราเทจี* ก็ประกาศเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมว่าได้ซื้อ *บิตคอยน์* เพิ่มอีก 1,895 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 180.3 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2,560 พันล้านวอน โดยราคาซื้อต่อเหรียญเฉลี่ยอยู่ที่ 95,167 ดอลลาร์ ทั้งนี้ ไมโครสตราเทจีสามารถทำกำไรจากการลงทุน *บิตคอยน์* ไปแล้ว 14% นับตั้งแต่ต้นปี 2025
‘ความคิดเห็น’: แม้สหรัฐฯ จะเริ่มขายทำกำไร *บิตคอยน์* แต่กระแสความเชื่อมั่นในกลุ่มนักลงทุนสถาบันยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนราคาหลังจากนี้
ความคิดเห็น 0