ในขณะที่ราคาของบิตคอยน์(BTC)ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าแนวต้านจิตวิทยาที่ระดับ 100,000 ดอลลาร์มาระยะหนึ่ง ความเห็นในตลาดก็เริ่มแตกต่างกันอย่างชัดเจน เมื่อไม่นานมานี้ แพลตฟอร์มวิเคราะห์ชื่อดังอย่างแซนติเมนต์(Santiment)เปิดเผยว่า นักลงทุนรายใหญ่ยังคงสะสม BTC อย่างต่อเนื่องในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนรายย่อยกลับลดการถือครองลง
จากข้อมูลของแซนติเมนต์ กระเป๋าเงินที่ถือครองบิตคอยน์ในช่วง 10 ถึง 10,000 BTC ได้สะสมเพิ่มขึ้นอีก 81,338 BTC ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นประมาณ 0.61% ของการถือครองรวมของกลุ่มนี้ สะท้อนให้เห็นถึง *ความเชื่อมั่นในศักยภาพของราคาที่จะกลับมาขึ้นอีกครั้ง* ซึ่งทางแซนติเมนต์เชื่อว่า อาจเป็นสัญญาณว่า BTC มีแนวโน้มกลับไปทดสอบระดับ 100,000 ดอลลาร์ในอนาคต
ในทางตรงกันข้าม นักลงทุนที่ถือ BTC ต่ำกว่า 0.1 เหรียญได้ขายออกไปรวมแล้ว 290 BTC ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งแซนติเมนต์ตีความว่าเป็นการถอยเชิงกลยุทธ์จากความกังวลหรือความเบื่อในตลาด และถือเป็นพฤติกรรมที่พบได้ในตลาดขาลงแบบ *ขายตื่น(Panic Selling)*
แซนติเมนต์ยังเน้นว่า *การที่รายใหญ่สะสมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รายย่อยขายออกนั้น อาจเป็นสัญญาณของการเตรียมตัวสำหรับรอบขาขึ้นถัดไป* พร้อมชี้ให้เห็นว่าผู้เล่นหลักส่วนใหญ่ในตลาดเริ่มมีเป้าหมายร่วมกันที่ระดับ 100,000 ดอลลาร์
นอกจากนั้น ตลาด ETF สำหรับบิตคอยน์แบบสปอตก็แสดงให้เห็นถึงเม็ดเงินไหลเข้าที่แข็งแกร่งเช่นกัน โดยตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลเข้าสู่กองทุน ETF รวมถึง 4.41 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 64,370 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการกลับมาของ *ความเชื่อมั่นจากนักลงทุนสถาบัน* แรงซื้อเหล่านี้เกิดขึ้นขณะที่ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวในกรอบ 76,273 - 97,210 ดอลลาร์
ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้เพิ่มความคาดหวังว่า บิตคอยน์อาจกลับเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นอีกครั้ง แม้อยู่ในภาวะที่ตลาดยังคงผันผวนในระยะสั้น โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากการสะสมของผู้เล่นหลักและการไหลเข้าของเงินทุนในตลาด ETF ที่ยังแข็งแกร่ง
ความคิดเห็น 0