บิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุ 104,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.52 ล้านบาท ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี ท่ามกลางการจับตาว่าราคาจะสามารถยืนเหนือแนวรับจิตวิทยาที่ 100,000 ดอลลาร์ได้หรือไม่ เพราะถือเป็นจุดตัดสำคัญของทิศทางตลาดหลังจากที่ก่อนหน้านี้ ราคาบิตคอยน์ร่วงลงถึงจุดต่ำสุดในปีนี้ที่ราว 75,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.09 ล้านบาท ก่อนดีดกลับมาอย่างร้อนแรง
ตามรายงานของ Cointelegraph Markets Pro และ TradingView เมื่อวันที่ 8 ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นเกือบ 10% ภายในเวลาไม่กี่วัน ทำให้นักลงทุนในตลาดประหลาดใจ จากการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและแรงกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในตลาดเริ่มมีความกังวล เรื่อง *ความยั่งยืนของราคาที่พุ่งขึ้น* เพราะดูเหมือนว่าจะได้รับแรงหนุนจากปัจจัยภายนอกและข่าวเชิงบวกเพียงไม่กี่กระแส
นักเทรดคริปโตชื่อดังที่ใช้ชื่อว่า สคิว(Skew) แสดงความคิดเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า ภาวะตลาดคริปโตในตอนนี้ “ตอบสนองต่อข่าวอย่างหุนหันพลันแล่น” แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของตลาด โดยเฉพาะเมื่อบิตคอยน์มีการตอบสนองต่อถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ หรือประเด็นการเมืองและสังคมของสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นล่าสุด ซึ่งส่งผลต่อภาพรวมของสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดโลก
หนึ่งในปัจจัยหนุนครั้งนี้มาจากการประกาศข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ที่ถูกมองว่าเป็นพัฒนาการเชิงบวก อย่างไรก็ตาม ความหวังเช่นนี้ไม่สามารถรับประกันการขึ้นต่อเนื่องในระยะยาว และยังต้องจับตาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหภาพยุโรปและจีน ซึ่งอาจส่งผลต่อภาพรวมของตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
สคิวกล่าวเพิ่มเติมว่า “สิ่งที่ตลาดต้องการจากนี้ไปคือ *ปริมาณการซื้อขายที่แข็งแกร่ง* และการไหลเข้าของเงินลงทุนแบบต่อเนื่อง” โดยเฉพาะถ้าราคาบิตคอยน์จะรักษาฐานไว้ที่เหนือ 100,000 ดอลลาร์ เขายังเสริมว่า การที่ราคาทะลุแนวต้านนี้ได้ เป็นผลจากแรงซื้อขนาดใหญ่ แต่สำหรับราคาที่จะสามารถส่งสัญญาณถึงมูลค่าที่ยั่งยืนในระยะยาว ต้องมีการไหลเข้าของเงินทุนเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก
ขณะนี้นักลงทุนกำลังเฝ้าดูว่า แนวรับที่ระดับ 100,000 ดอลลาร์จะสามารถยืนได้หรือไม่ เพราะถือเป็นทั้งแนวต้านทางเทคนิคและระดับจิตวิทยาที่สำคัญ ความต่อเนื่องของกระแสข่าวและทิศทางของตลาดการค้าโลก อาจเป็นปัจจัยชี้วัดสำคัญ ว่าการดีดตัวของบิตคอยน์ขณะนี้จะเป็นเพียงแค่ ‘แรงกระเพื่อมชั่วคราว’ หรือจริงๆ แล้ว คือจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางถึงยาว
ความคิดเห็น 0