บิตคอยน์(BTC) กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการขาย หลังจากรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) ของสหรัฐฯ ที่ร้อนแรงกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ตลาดมีความผันผวน
เมื่อวันที่ 13 (เวลาท้องถิ่น) ข้อมูล PPI ประจำเดือนมกราคมที่เปิดเผยพร้อมกับการเปิดตลาดวอลล์สตรีท แสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตา ตัวเลข PPI เดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 0.3% และ 3.2% ตามลำดับ นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ที่เปิดเผยไปก่อนหน้านี้ก็ออกมาสูงเกินคาด ส่งผลให้ความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลดลงอีก
ข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ชี้ให้เห็นว่า โอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงิน (FOMC) เดือนมีนาคมอยู่ที่เพียง 2.5% เท่านั้น ทำให้แนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยในอนาคตของตลาดลดลงอย่างมาก
บรรดานักลงทุนคริปโตจึงจับตามองทิศทางของบิตคอยน์อย่างใกล้ชิด เทรดเดอร์ ‘Skew’ ได้วิเคราะห์ข้อมูลคำสั่งซื้อขายในกระดานของไบแนนซ์(Binance) โดยระบุว่าแรงขายยังคงมีอยู่ชัดเจน แต่ยังไม่ถึงระดับที่ถือว่าสำคัญ เขากล่าวว่า "มีแรงซื้อบางส่วนเข้าสู่ตลาดที่ราคาต่ำ แต่หากบิตคอยน์ต้องการกลับตัวขึ้นจริง ๆ จำเป็นต้องมีแรงซื้อเพิ่มมากขึ้น"
อีกด้านหนึ่ง เทรดเดอร์ ‘Castillo Trading’ คาดการณ์ว่าราคาอาจยังคงผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะยาว บิตคอยน์มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 104,000 ดอลลาร์อีกครั้ง
นอกจากนี้ บริษัทเทรดคริปโต QCP แคปิทัล เปิดเผยว่านักลงทุนเริ่มให้ความสนใจกับท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ ทรัมป์เคยเรียกร้องให้ Fed ลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงในปัจจุบันอาจกระตุ้นให้เขาแสดงจุดยืนที่น่าสนใจในเรื่องนี้ QCP แคปิทัลให้ความเห็นว่า "ตลาดกำลังจับตาดูว่าทรัมป์จะยังคงกดดัน Fed ต่อไป หรือจะมีท่าทีที่ยืดหยุ่นมากขึ้นตามข้อมูลเศรษฐกิจ"
ขณะที่ตลาดคริปโตยังคงจับตานโยบายการเงินของ Fed และแนวทางเศรษฐกิจของทรัมป์ บิตคอยน์จะสามารถต้านทานแรงขายและฟื้นตัวสู่แนวโน้มขาขึ้นได้หรือไม่ ยังคงเป็นคำถามที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0