มูลค่าหุ้นของไมโครสเตรทิจีทะยานขึ้นกว่า *2,930%* นับตั้งแต่เริ่มลงทุนในบิตคอยน์(BTC) เมื่อปี 2020 ตามข้อมูลล่าสุดจากเซนโทรา(เดิมชื่อ อินทูเดอะบล็อก) ซึ่งระบุว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นของบริษัทดังกล่าวเพิ่มขึ้นเร็วกว่า *ผลตอบแทนของบิตคอยน์* ถึง *63%*
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม สเตรทิจีรายงานว่าได้เข้าซื้อบิตคอยน์อีก *4,020 BTC* คิดเป็นมูลค่าราว *427.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือประมาณ *5.85 พันล้านบาท* บริษัทระบุด้วยว่า ณ วันที่ 25 พฤษภาคม บริษัทถือครองบิตคอยน์รวม *580,250 BTC* ซึ่งเป็นการลงทุนมูลค่าประมาณ *4.06 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือราว *5.56 ล้านล้านบาท*
ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งของสเตรทิจี เปิดเผยกับ CNBC ว่า “ความสนใจจากกลุ่มบริษัทต่อการถือครองบิตคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก” พร้อมเสริมว่า “ในระยะยาว บิตคอยน์บนงบดุลของบริษัท ถือเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง”
ขณะเดียวกัน เกมสต็อปประกาศลงทุนในบิตคอยน์มูลค่า *500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* ขณะที่บริษัทเทเธอร์, ซอฟต์แบงก์ และแจ็ค มัลเลอร์ส(Jack Mallers) จากสไตรค์ ร่วมกันจัดตั้งบริษัทจดทะเบียนชื่อ ‘ทเวนตี้วัน’ ที่ตั้งเป้าถือครองบิตคอยน์มากกว่า *42,000 BTC* ซึ่งจะทำให้กลายเป็น *บริษัทที่ถือครองบิตคอยน์เป็นอันดับ 3 ของโลก*
เซย์เลอร์สรุปว่า “เราจะเดินหน้าซื้อบิตคอยน์ต่อไป” พร้อมคาดการณ์ว่า *ราคาของบิตคอยน์จะยังคงปรับขึ้น* แม้การเข้าซื้อจะยากขึ้นเรื่อยๆ แต่บริษัทจะหาวิธีที่ *มีประสิทธิภาพมากขึ้น* ในการสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ต่อไป
*ความคิดเห็น*: ทิศทางของไมโครสเตรทิจีเป็นตัวอย่างของแนวคิด ‘บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์สำรองระยะยาว’ ที่เริ่มถูกนำมาปรับใช้ในระดับบริษัทมากขึ้น และความเคลื่อนไหวของบริษัทอย่างเกมสต็อปหรือทเวนตี้วันก็สะท้อนว่าแนวโน้มนี้กำลังกลายเป็นกระแสในวงการธุรกิจระดับโลก
ความคิดเห็น 0