แม้ตลาดคริปโตจะเผชิญความผันผวนจากความขัดแย้งระหว่างทรัมป์และอีลอน มัสก์(Elon Musk) นักลงทุนยังคงแสดงท่าที ‘ระมัดระวังแต่มีความหวัง’ ตามรายงานประจำสัปดาห์ของไบแนนซ์(Binance) ซึ่งชี้ว่าความคาดหวังต่อการลงจอดอย่างนุ่มนวลและสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยหนุนด้านจิตวิทยาการลงทุน อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงตอบสนองอย่างไวต่อความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)
ความเคลื่อนไหวระหว่างทรัมป์และมัสก์ ส่งผลให้บิตคอยน์(BTC) ผันผวนในช่วงราคา 104,000 ถึง 106,000 ดอลลาร์ ก่อนจะร่วงลงต่ำกว่าแนวรับที่ 101,000 ดอลลาร์ ด้านอีเธอเรียม(ETH) ก็อ่อนตัวตาม โดยหลุดระดับสำคัญที่ 2,400 ดอลลาร์ลงมา
รายงานของไบแนนซ์ยังเผยว่า ปริมาณ BTC และ ETH ที่ถูกเก็บไว้ในกระดานแลกเปลี่ยนลดลงต่อเนื่อง โดยนับจากต้นเดือนพฤษภาคม BTC ลดลง 4.3% และ ETH ลดลงถึง 7.5% แตะระดับต่ำสุดในรอบปี ซึ่งถูกตีความว่าเป็นสัญญาณของการ ‘สะสมสินทรัพย์’ ของนักลงทุน
ในอีกด้านหนึ่ง ตลาด ETF คริปโตเริ่มได้รับความสนใจจากภาคการเงินแบบดั้งเดิมมากขึ้น หลังจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) แถลงว่า การสเตกในเครือข่ายแบบหลักฐานการมีส่วนร่วม(PoS) ไม่จัดว่าเป็นการซื้อขายหลักทรัพย์ ส่งผลให้ ETF เริ่มสามารถผนวกผลตอบแทนจากการสเตกเข้ากับผลิตภัณฑ์ได้
เจพีมอร์แกน(JP Morgan) ได้ประกาศยอมรับหุ้น ETF คริปโตเป็น ‘สินทรัพย์ค้ำประกัน’ สำหรับการปล่อยกู้ ขณะที่เซอร์เคิล(Circle) ผู้ออกเหรียญ USDคอยน์(USDC) ระดมทุนได้สูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.08 หมื่นล้านบาท) จากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก(NYSE) โดยมีมูลค่าตลาดหลังจดทะเบียนสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.78 แสนล้านบาท)
*ความคิดเห็น*: ความเคลื่อนไหวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการเริ่มเข้าใกล้เส้นแบ่งระหว่างระบบการเงินแบบดั้งเดิมและคริปโต ซึ่งอาจนำไปสู่กระแสใหม่ทั้งในแง่ผลิตภัณฑ์และรูปแบบการลงทุนในอนาคต
ความคิดเห็น 0