เหรียญดอลลาร์สหรัฐแบบมีเสถียรภาพ หรือ ‘ยูเอสดีคอยน์(USDC)’ ถูกผนวกรวมเข้ากับเครือข่าย XRP เลเจอร์(XRPL) อย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมด้วย USDC บน XRPL ได้โดยตรงโดยไม่ต้องพึ่งระบบบริดจ์ที่ซับซ้อน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้การชำระเงินด้วยคริปโตมี *ความรวดเร็วและง่ายดายมากยิ่งขึ้น*
เซอร์เคิล(Circle) ผู้ให้บริการเหรียญ USDC ประกาศเมื่อวันที่ 12 ว่า *แพลตฟอร์มเซอร์เคิลมินต์(Circle Mint)* และ API ของบริษัทในขณะนี้ *รองรับ XRP เลเจอร์อย่างสมบูรณ์* แล้ว ความเคลื่อนไหวนี้เปิดทางให้ธุรกิจและนักพัฒนาสามารถเข้าถึงสภาพคล่อง USDC ผ่านเครือข่าย XRPL ที่มีความเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำได้โดยตรง โดยเฉพาะในกรณีของการโอนเงินข้ามประเทศ การสนับสนุนสภาพคล่องในระบบการเงินแบบกระจายศูนย์(DeFi) และการชำระเงินในแอปฟินเทคที่ต้องการความคล่องตัว
ก่อนหน้านี้ การใช้งาน USDC บนเครือข่าย XRPL จำเป็นต้องผ่านกระบวนการบริดจ์จากบล็อกเชนอื่น แต่ด้วยการผสานระบบล่าสุด ผู้ใช้จะสามารถส่งและรับ USDC บน XRPL ได้โดยตรง ส่งผลให้ *ธุรกรรมรวดเร็วขึ้น ลดความเสี่ยงจากการแปลงเหรียญ และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ*
เซอร์เคิลยังได้ระบุว่า XRP เลเจอร์ ซึ่งมี *ความเชื่อถือได้และขยายตัวได้สูง* ถือเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการผลักดัน USDC ให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจริงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ USDC ได้ถูกเผยแพร่แล้วในบล็อกเชนรวม 22 แห่ง ซึ่งรวมถึง อีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL), อวาแลนเช(AVAX) และการผสาน XRPL ครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญเพื่อขยายการใช้งานในระดับโลก
การรวมตัวกันระหว่าง XRP เลเจอร์และ USDC ถือเป็นการจับคู่ข้อได้เปรียบของทั้งสองระบบ ไม่ว่าจะเป็น *เสถียรภาพของเหรียญสเตเบิลคอยน์* และ *ความรวดเร็วของบล็อกเชนแบบเปิด* ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่านี่เป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับ *ระบบนิเวศของสเตเบิลคอยน์* ทั้งหมด และยังจะมีบทบาทสำคัญ *ในการขยายการเข้าถึงการเงินแบบไร้ตัวกลางในวงกว้าง*
การผสาน USDC เข้ากับ XRPL ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่แง่เทคนิค แต่เป็นก้าวย่างสำคัญที่ *เสริมความเป็นไปได้ในการใช้บล็อกเชนเพื่อระบบการเงินระดับโลก* และอาจกลายเป็น *จุดเปลี่ยนในอนาคตของสเตเบิลคอยน์* อย่างมีนัยสำคัญ.
ความคิดเห็น 0