บล็อกเชนเลเยอร์ 1 อย่าง ‘ไดเมนชัน(Dymension)’ เตรียมเดินหน้าอัปเกรดเครือข่ายครั้งใหญ่พร้อมกับเปิดตัวกิจกรรมแอร์ดรอปรอบที่ 2 โดยมีเป้าหมายในการยกระดับสู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินแบบครอบคลุมภายในระบบนิเวศคริปโต
ไดเมนชันเป็นบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ที่สร้างขึ้นด้วยกลไก ‘การมอบหมายสิทธิ์การถือครองเพื่อยืนยันธุรกรรม’ (Delegated Proof-of-Stake) โดยเด่นด้วยการออกแบบโครงสร้างแบบโมดูลาร์ซึ่งรองรับบล็อกเชนย่อยที่เรียกว่า ‘โรลแอป(RollApp)’ ซึ่งผู้พัฒนาสามารถสร้างขึ้นได้ด้วยชุดเครื่องมือ RollApp Development Kit (RDK) ที่ทางไดเมนชันจัดเตรียมไว้ โครงสร้างนี้ทำงานคล้ายกับการแยกส่วนหน้าและเซิร์ฟเวอร์ของอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ ช่วยให้ไดเมนชันทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มเบื้องหลังหลากหลายแอปพลิเคชันอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไดเมนชันได้เปิดตัวเมนเน็ตพร้อมเหรียญประจำเครือข่าย ‘DYM’ โดยมีจำนวนทั้งหมด 1,000 ล้านเหรียญ ปัจจุบันมีประมาณ 320 ล้านเหรียญที่อยู่ในการหมุนเวียน คิดเป็นมูลค่าตลาดราว 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 973 ล้านบาท
ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่แอร์ดรอปรอบก่อนหน้าซึ่งเปิดตัวในช่วง Genesis Launch ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 400 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5,560 ล้านบาท โดย DYM ถูกแจกจ่ายให้ผู้ใช้งานแรกเริ่ม สำหรับในรอบที่ 2 นี้ ไดเมนชันยืนยันว่าจะใช้แนวทางการแจกแบบ ‘เวฟ(Wave)’ โดยผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมในระยะแรกจะต้องเป็นผู้ถือเหรียญ DYM ที่มีการสเตกไว้ในระยะยาว
ในขณะเดียวกัน ไดเมนชันยังจะเปิดใช้งาน ‘อัปเกรด Beyond’ ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระบบขนาดใหญ่ ทางทีมระบุว่า ที่ผ่านมาได้เปิดเผยเพียงโปรโตคอลขั้นต้นเท่านั้น และการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบจะเริ่มต้นจากการอัปเดตครั้งนี้ ซึ่งฟีเจอร์สำคัญคือการเพิ่มความสามารถให้สามารถสร้างโรลอัปบนเชนอื่นโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโค้ดหลักของบล็อกเชนต้นทาง ส่งผลให้ระบบมีความยืดหยุ่นและสามารถทำงานร่วมกับเครือข่ายอื่นได้มากขึ้น
ที่น่าสนใจคือ ‘เวลาการผลิตบล็อก’ จะถูกลดลงจากปัจจุบันที่ประมาณ 5 วินาที เหลือเพียง 1 วินาที ทำให้สามารถแข่งขันด้านความเร็วกับบล็อกเชนอย่างโซลานา(SOL) ได้อย่างสูสี ความเร็วนี้อาจกลายเป็นจุดแข็งสำคัญ โดยเฉพาะในแอปพลิเคชันกลุ่มเกมและการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi)
ไดเมนชันให้ความสำคัญกับ ‘โครงสร้างแบบโมดูลาร์’ มาอย่างต่อเนื่องเพื่อลบข้อจำกัดของบล็อกเชนแบบเดิม การอัปเกรดในซีซั่น 2 ครั้งนี้จะเสริมสร้างศักยภาพด้านระบบและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นเลเยอร์กลางของการชำระเงินและการชำระบัญชีในโลกคริปโต ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่ดึงดูดความสนใจจากทั้งนักพัฒนาและนักลงทุน
*ความคิดเห็น: การมุ่งสู่โครงสร้างโมดูลาร์สะท้อนถึงแนวโน้มของวงการบล็อกเชนที่ต้องการแก้ปัญหาด้านความยืดหยุ่นและการขยายขนาดได้อย่างยั่งยืน โครงการอย่างไดเมนชันจึงมีบทบาทสำคัญในภาพรวมของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของคริปโตในอนาคต*
ความคิดเห็น 0