ตลาดเหรียญมีมกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง โดย *เพนกวินขนปุย(PENGU)* ซึ่งเป็นเหรียญมีมบนเครือข่าย *โซลานา(SOL)* พุ่งขึ้นมากกว่า 70% ภายในสัปดาห์เดียว ดันมูลค่าตลาดทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 13,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสองเดือน และทำให้ PENGU แซงหน้าเหรียญมีมอย่าง *ด็อกวิฟแฮต(WIF)* และ *โฟลกิ(FLOKI)* ไปได้
การพุ่งขึ้นของ PENGU ไม่ได้เกิดจากแรงเก็งกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ส่วนหนึ่งมาจากความเป็นไปได้ที่เหรียญนี้จะเข้าตลาด ETF ในสหรัฐฯ ล่าสุดบริษัทแค너รีแคปิตอลได้ยื่นคำร้องต่อตลาดหลักทรัพย์ *CBOE* เพื่อขอจดทะเบียน ETF ที่อ้างอิงกับเหรียญ PENGU โดย ETF ดังกล่าวถูกออกแบบให้ครอบคลุม *NFT เพนกวินขนปุย* ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มใหม่ของตลาดที่ผสาน NFT และเหรียญมีมเข้าด้วยกัน
ในฝั่งยุโรป *เรโวลูต(Revolut)* แพลตฟอร์มฟินเทครายใหญ่ได้เพิ่ม PENGU เป็นสินทรัพย์ที่สามารถซื้อขายได้ ส่งผลให้นักลงทุนหลายล้านรายเข้าถึง PENGU ได้ง่ายขึ้น การเข้าถึงที่มากขึ้นนี้ช่วยกระตุ้นปริมาณซื้อขาย และกลายเป็นแรงผลักดันต่อราคาโดยตรง
นักวิเคราะห์ตลาด *อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez)* แสดงความคิดเห็นว่า การเคลื่อนไหวของ PENGU คล้ายกับ *PEPE* ที่เคยพุ่งแรงเมื่อปีที่แล้ว โดยเขาระบุว่า “หากราคาปิดรายวันสามารถทะลุแนวต้านที่ 0.015~0.017 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง กระแสราคาที่เป็นขาขึ้นอาจหยุดไม่อยู่” ปัจจุบัน PENGU ซื้อขายอยู่ที่ราว 0.016 ดอลลาร์ หรือประมาณ 22 บาท
มาร์ติเนซยังเสริมว่า มีความเป็นไปได้ที่ PENGU จะพุ่งขึ้นอีก 200% แตะที่ระดับ 0.044 ดอลลาร์ หรือประมาณ 61 บาท ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่าการขึ้นของราคาอาจขยายตัวสู่ระดับ *โมเมนตัมระยะกลาง* ไม่ใช่เป็นเพียงการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น
กลไกขับเคลื่อนราคาของ PENGU ในครั้งนี้จึงไม่ใช่กระแสชั่วคราว แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นโอกาสเข้าสู่ตลาด ETF, การขยายตัวของแพลตฟอร์มซื้อขายระดับโลก หรือความคาดหวังในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น *เพนกวินขนปุย(PENGU)* กำลังกลายเป็นตัวเต็งใหม่ในกลุ่มเหรียญมีมที่น่าจับตามอง
ความคิดเห็น 0