Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิต ดิจิทัล(BTBT) เทขายบิตคอยน์ทุ่ม 172 ล้านดอลลาร์ซื้ออีเธอเรียม(ETH) กว่า 100,000 เหรียญ

บิต ดิจิทัล(BTBT) เทขายบิตคอยน์ทุ่ม 172 ล้านดอลลาร์ซื้ออีเธอเรียม(ETH) กว่า 100,000 เหรียญ / Tokenpost

บริษัทบิต ดิจิทัล(BTBT) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กของสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจขายบิตคอยน์(BTC) ที่ถือครองทั้งหมด และทุ่มเงินลงทุนในอีเธอเรียม(ETH) แทน กลยุทธ์ใหม่นี้ช่วยให้บริษัทสามารถระดมทุนได้ราว 172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,391 ล้านบาท) และนำเงินดังกล่าวไปซื้ออีเธอเรียมมากกว่า 100,000 เหรียญ ส่งผลให้บิต ดิจิทัลกลายเป็นหนึ่งในบริษัทมหาชนที่ถือครองอีเธอเรียมในระดับแนวหน้า

เมื่อวันที่ 7 บริษัทเปิดเผยผ่านแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า ขณะนี้ถือครองอีเธอเรียมอยู่ทั้งหมด 100,603 เหรียญ เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 24,434 เหรียญ ณ สิ้นเดือนมีนาคม โดยมูลค่าตามราคาตลาดของสินทรัพย์ที่ถือครองอยู่ในขณะนี้สูงถึงประมาณ 254 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,531 ล้านบาท) แนวทางใหม่นี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ด้านการเงินของบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งเริ่มหันเหความสนใจจากบิตคอยน์ไปสู่อีเธอเรียมมากขึ้น

แซม ทาบาร์(Sam Tabar) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบิต ดิจิทัล แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของอีเธอเรียม โดยกล่าวว่า “คุณลักษณะที่สามารถเขียนโปรแกรมได้ โครงสร้างรายได้จากการสเตก และอัตราการยอมรับที่เพิ่มขึ้น บ่งชี้ว่าอีเธอเรียมคืออนาคตของระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัล” เขายังเสริมว่าบริษัทมีแผนที่จะ *เพิ่มการถือครอง ETH อย่างเชิงรุก* ต่อไปในอนาคต

ในขณะเดียวกัน บิต ดิจิทัลยังได้รับการจับตามองร่วมกับบริษัทคริปโตรายใหญ่อย่างชาร์พลิงและบิตมายน์ เนื่องจากต่างก็วางกลยุทธ์ด้านการเงินที่เน้นอีเธอเรียมเป็นหลัก โดยก่อนหน้านี้ บิตมายน์ที่นำโดยทอม ลี(Tom Lee) ได้เปิดตัวกองทุนคลัง ETH มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,475 ล้านบาท) จนได้รับความสนใจจากแวดวงการเงินคริปโต

อดีตผู้พัฒนาอีเธอเรียมอย่างเอริก คอนเนอร์(Eric Conner) แสดงความคิดเห็นว่า “ทอม ลี คือผู้จุดประกาย โจ รูบินคือผู้วางกลยุทธ์ และบิต ดิจิทัลคือผู้พิสูจน์ขนาดของมัน” พร้อมวิเคราะห์ว่าเทรนด์การถือครอง ETH กำลังกลายเป็น ‘แนวโน้ม’ ใหม่ในภาคธุรกิจ ไม่ใช่แค่การทดลองอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมของบริษัทจะเป็นบวก แต่ราคาของอีเธอเรียมยังไม่ตอบสนองในทางเดียวกัน โดยในขณะเขียนข่าว ETH ลดลง 2% อยู่ที่ 2,528 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 351,000 บาท) ซึ่งสาเหตุหลักมาจากสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ตึงเครียด เช่น จดหมายประกาศนโยบายภาษีการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ส่งผลเชิงลบต่อสินทรัพย์คริปโตโดยรวม ทั้งนี้ อีเธอเรียมยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบบริเวณระดับกลางของ 2,500 ดอลลาร์

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1