หน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน(FinCEN) สังกัดกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้กำหนดให้ ‘ฮุยเหวิน(Huione)’ เป็นองค์กรที่มีความเสี่ยงในการฟอกเงินเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ล่าสุดกลับพบว่า ยังมีเงินทุนจำนวนมหาศาลในรูปแบบของเทเธอร์(USDT) ไหลเข้าสู่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบรวมศูนย์(CEX) อย่างต่อเนื่อง
จากรายงานล่าสุดของบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนระดับโลกอย่าง โกลบอลเลเจอร์(Global Ledger) พบว่า มีเงินจำนวนกว่า *942.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท)* ไหลเข้าสู่ CEX ผ่านกระเป๋าเงินที่เชื่อมโยงกับฮุยเหวิน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังการประกาศปิดตัวของมาร์เก็ตเพลสในเครือฮุยเหวิน ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่ควรจะเป็น
ก่อนหน้านี้ FinCEN ได้ระบุว่าฮุยเหวินให้บริการผ่านมาร์เก็ตเพลสที่ไม่มีใบอนุญาต และมีบทบาทในการสนับสนุนการฟอกเงินให้กับกลุ่มอาชญากรและเครือข่ายการหลอกลวงไซเบอร์ จึงจัดให้อยู่ในประเภท ‘องค์กรที่มีความเสี่ยงสูงต่อการฟอกเงินขั้นต้น’ และเป็นเป้าหมายภายใต้กฎหมาย PATRIOT Act ของสหรัฐฯ
แม้จะมีข่าวว่าฮุยเหวินได้ปิดตัวลง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาดิจิทัลในวงการยังมีความเห็นที่แตกต่างในประเด็นนี้ โดยบางรายเชื่อว่าอาจเป็นเพียงการปิดกั้นการเข้าถึงเท่านั้น ไม่ใช่การหยุดปฏิบัติการจริง
ตามข้อมูลของโกลบอลเลเจอร์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 17 มิถุนายน พบว่าการทำธุรกรรมผ่านกระเป๋าเงินในเครือฮุยเหวินบนเครือข่าย *ทรอน(Tron)* มีมูลค่ารวมกว่า *10.13 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.4 ล้านล้านบาท)* ขณะที่กระเป๋าเงินในระบบ *อีเธอเรียม(Ethereum)* มีการดำเนินธุรกรรมมูลค่าประมาณ *219 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3 พันล้านบาท)* ซึ่งทั้งหมดสะท้อนว่ามี *เม็ดเงินมหาศาลยังคงไหลเวียนอยู่แม้ฮุยเหวินจะถูกขึ้นบัญชีดำ*
โกลบอลเลเจอร์ให้ความเห็นว่า “การที่ยังพบการเคลื่อนไหวของทุนกลุ่มนี้ไปยัง CEX เป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะอาจเป็นเบาะแสสำคัญต่อการสืบสวนและกำกับดูแลในระยะถัดไป” *ความคิดเห็น*
ในขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการฟอกเงินผ่านคริปโตกลับมาอีกครั้ง สหรัฐฯ ก็เตรียมตอบโต้ด้วยมาตรการที่เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะการใช้กฎหมาย PATRIOT Act ซึ่งเคยได้รับการสนับสนุนในช่วงรัฐบาลทรัมป์อย่างเข้มข้น ถูกนำกลับมาใช้อย่างจริงจังในยุครัฐบาลไบเดน เพื่อขยายการควบคุมระบบนิเวศคริปโตทั้งหมดให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น *ความคิดเห็น*
ความคิดเห็น 0