ดูไบเดินหน้าใช้ ‘คริปโต’ ในชีวิตประจำวันอย่างจริงจัง โดยล่าสุด สายการบินขนาดใหญ่ระดับโลกอย่างเอมิเรตส์ และร้านค้าปลอดภาษีดูไบ เตรียมเปิดรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล เพื่อมอบประสบการณ์การใช้จ่ายแบบใหม่ให้แก่นักเดินทางทั่วโลก ความเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ ‘ลดการใช้เงินสด 90%’ ของรัฐบาลดูไบ โดยร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับแพลตฟอร์มคริปโตชื่อดังอย่างคริปโตดอทคอม(Crypto.com) เพื่อผลักดันการใช้คริปโตในชีวิตจริงให้แพร่หลายยิ่งขึ้น
ความร่วมมือครั้งนี้ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการหลังจาก เชค อาห์หมัด บิน ซาอีด อัล มัคตูม(Sheikh Ahmed bin Saeed Al Maktoum) ประธานกลุ่มเอมิเรตส์ ลงนามบันทึกความเข้าใจ(MoU)ร่วมกับคริปโตดอทคอม โดยเอมิเรตส์เตรียมนำระบบ ‘คริปโตดอทคอมเพย์(Crypto.com Pay)’ เข้ามาให้บริการทั้งในการจองตั๋วเครื่องบินและบริการบนเครื่องบิน ขณะที่ร้านค้าปลอดภาษีดูไบก็มีแผนรวมระบบชำระด้วยคริปโตเข้ากับทั้งร้านค้าออฟไลน์และช่องทางออนไลน์ของตน
ราเมช ศิดัมบี(Ramesh Cidambi) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของดูไบดูตี้ฟรีกล่าวว่า “การนำคริปโตมาใช้ช่วยเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้า และสอดคล้องกับจังหวะการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของเมือง” พร้อมเน้นว่านี่คือก้าวสำคัญที่สอดรับกับวิสัยทัศน์ของดูไบในการเป็นเมืองนวัตกรรมการเงิน ขณะเดียวกัน เอริก อันเซียนิ(Eric Anziani) ซีโอโอของคริปโตดอทคอม ก็เสริมว่า “การเป็นพันธมิตรกับองค์กรขนาดใหญ่อย่างนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการนำคริปโตเข้าสู่การใช้งานจริง”
การเปิดรับคริปโตนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะบริการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การเงินดิจิทัลที่ครอบคลุมของดูไบ โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลดูไบได้จับมือกับคริปโตดอทคอมเพื่อเตรียมนำคริปโตมาใช้ในการชำระค่าสาธารณูปโภค อีกทั้งยังเริ่มพิจารณาการใช้ในธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ ค่าโทรศัพท์ และแม้แต่ค่าน้ำมัน ซึ่งการขยับตัวเช่นนี้สะท้อนถึงเป้าหมายของดูไบในการเป็น ‘ศูนย์กลางคริปโตระดับโลก’
ทั้งดูไบและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตั้งเป้าให้ภายในปี 2026 การใช้เงินสดในระบบเศรษฐกิจจะลดลงเหลือไม่เกิน 10% รัฐบาลคาดว่าจะได้รับผลเชิงเศรษฐกิจมากถึง *8 พันล้านดอลลาร์* (ประมาณ 1.1 ล้านล้านวอน) พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ เช่น การยกเว้นภาษีให้กับสตาร์ทอัพในภาคเว็บ 3 หน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของดูไบ (VARA) ยังมอบใบอนุญาตการประกอบธุรกิจให้กับบล็อกเชนระดับโลกหลายแห่ง สะท้อนนโยบายเชิงรุกในการส่งเสริมการใช้คริปโต
ในเชิงธุรกิจ บริษัทที่นำคริปโตมาใช้จริงก็ได้เห็นผลลัพธ์เป็นรูปธรรม เช่น ร้านค้าปลอดภาษีดูไบมียอดขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 อยู่ที่ *4.1 พันล้านดีแรห์ม* (ราว 1.57 แสนล้านวอน) ซึ่งการเปิดรับคริปโตนั้นคาดว่าจะช่วยเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเจเนอเรชัน Z และกลุ่มผู้ใช้ดิจิทัลทั่วโลกได้มากขึ้น สำหรับเอมิเรตส์ การรับคริปโตจะช่วยเพิ่มโอกาสดึงดูดนักเดินทางต่างชาติที่มีการลงทุนในคริปโตให้ใช้บริการมากขึ้น
ปัจจุบัน เอมิเรตส์และร้านค้าปลอดภาษีดูไบได้เริ่มทดสอบระบบ ‘คริปโตดอทคอมเพย์’ และอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบทางเทคนิค แม้ยังไม่กำหนดวันเริ่มใช้อย่างเป็นทางการ แต่ระบบนี้จะสามารถแปลงสกุลเงินดิจิทัลเป็นเงินสกุลท้องถิ่นโดยอัตโนมัติในขั้นตอนการชำระเงิน ลดความยุ่งยากให้ผู้ใช้งาน
การเดินหน้าเช่นนี้ของดูไบ ซึ่งสอดประสานกับความร่วมมือจากธุรกิจระดับโลก ชี้ให้เห็นถึงความพยายามที่จะหลอมรวม ‘คริปโต’ สู่ระบบเศรษฐกิจจริงในพื้นที่สำคัญอย่างสนามบินและแหล่งช้อปปิ้ง และหากแผนนี้ประสบความสำเร็จ ก็อาจขยายไปสู่หน่วยงานราชการและบริการภาคเอกชนอื่น ๆ ทั่วโลกได้ในอนาคต *ความคิดเห็น:* สิ่งนี้ตอกย้ำบทบาทของดูไบในฐานะเมืองศูนย์กลางของเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลกได้อย่างเด่นชัด
ความคิดเห็น 0