ปัญหาการร่วมมือของรัฐบาลทั่วโลกในการเพิ่มความเข้มงวดด้านกฎระเบียบทางการเงิน กำลังก่อให้เกิด ‘ความกังวลครั้งใหญ่’ ในวงการคริปโต โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ *ความเป็นส่วนตัวทางดิจิทัล* ล่าสุด ปีเตอร์ แวน วัลเคนเบิร์ก(Peter Van Valkenburgh) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยจาก Coin Center กล่าวผ่านพอดแคสต์ The Clear Crypto ว่า สถานการณ์ขณะนี้คือ “จุดเปลี่ยนสำคัญ” ที่อาจส่งผลต่ออนาคตของเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างมีนัยสำคัญ
เขาระบุว่า ปัจจุบันรัฐบาลหลายประเทศกำลัง "กล้าแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง" ในความพยายามเข้าถึงข้อมูลธุรกรรมทางการเงินของปัจเจกบุคคล พร้อมเตือนว่า *การถ่วงดุลระหว่างความโปร่งใสกับความเป็นนิรนามของบล็อกเชน* กำลังถูกทดสอบอย่างหนัก และหากปล่อยให้ฝ่ายที่ต้องการควบคุมเป็นฝ่ายชนะ “โครงสร้างทั้งหมดที่สร้างขึ้นเพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวบนบล็อกเชนอาจพังทลาย”
เมื่อเร็วๆ นี้ นานาประเทศรวมถึงสหรัฐฯ ได้เร่งออกมาตรการควบคุมใหม่ โดยใช้ข้ออ้างในการต่อต้านการฟอกเงินผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล หน่วยงานเช่น เครือข่ายสอบสวนอาชญากรรมทางการเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐ (FinCEN) มีแผนที่จะขยายขอบเขตการกำกับดูแลไปถึงธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกระเป๋าเงินดิจิทัลของบุคคลทั่วไป รวมถึงออกกฎใหม่ที่ต้องให้ *แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเก็บข้อมูลธุรกรรมในระดับระบุตัวบุคคล*
ในทางตรงกันข้าม เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อท่าทีดังกล่าวเริ่มดังขึ้นจากภาคอุตสาหกรรมและภาคประชาสังคม โดยเฉพาะข้อกังวลว่า *การลดความเป็นส่วนตัวดิจิทัล อาจนำไปสู่การละเมิดหลักการประชาธิปไตยและสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมือง* ขณะที่ปีเตอร์ แวน วัลเคนเบิร์ก ชี้ว่า ความพยายามนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะไม่ว่าจะเป็นยุคของรัฐบาลทรัมป์หรือไบเดน ต่างก็แสดงท่าทีผลักดันกฎระเบียบในลักษณะเดียวกัน
"นี่ไม่ใช่เรื่องของผู้ใช้งานคริปโตเพียงกลุ่มเดียวอีกต่อไป แต่คือคำถามที่ว่า *เราจะสามารถครอบครองความเป็นส่วนตัวในโลกดิจิทัลได้มากแค่ไหนในอนาคต*" เขากล่าว พร้อมเสริมว่า ขณะนี้ประเด็นความเป็นส่วนตัวได้ข้ามจากการเป็นเรื่องของเทคโนโลยี มาสู่สมรภูมิของ ‘ธรรมาภิบาล’ และ ‘สิทธิมนุษยชน’ อย่างเต็มตัว
*ความคิดเห็น:* การต่อสู้เพื่อความเป็นส่วนตัวนั้นอาจเป็นเดิมพันสำคัญที่สุดของวงการคริปโตในยุคที่รัฐบาลทั่วโลกพยายามควบคุมเทคโนโลยีที่พวกเขาไม่สามารถปรับตัวทัน.
ความคิดเห็น 0