แม้ว่าอีเธอเรียม(ETH) จะพุ่งขึ้นถึง 13.5% ภายในเวลาเพียงสองวัน จนแตะระดับ 2,925 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.06 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 6 (เวลาท้องถิ่น) แต่ตลาดก็ยังคงมี ‘ข้อสงสัย’ ต่อการทะลุแนวต้าน 3,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.17 ล้านบาท) อย่างต่อเนื่อง การไหลเข้าของเงินทุนในกองทุนอีทีเอฟแบบถือครองจริง (Spot ETF), การขยายตัวของระบบเลเยอร์ 2 และจำนวนสินทรัพย์รวมในระบบ (TVL) ที่เพิ่มขึ้น ล้วนเป็นสัญญาณบวก แต่ขณะเดียวกันตลาดอนุพันธ์กลับไม่ตอบสนองในทิศทางเดียวกัน
จากข้อมูลของตลาดล่วงหน้า CME (ชิคาโกเมอร์แคนไทล์เอ็กซ์เชนจ์) พบว่านักลงทุนยังคงมีความ ‘ไม่แน่นอน’ อย่างชัดเจน แม้ปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปลายเดือนพฤษภาคม แต่การเปิดสถานะคงค้าง (Open Interest) และการวางเดิมพันในตลาดออปชันกลับ ‘จำกัด’ ความเชื่อมั่นในทิศทางขาขึ้น สะท้อนถึงความ ‘ลังเล’ ต่อการปรับตัวขึ้นของ ETH ในระยะสั้น
ปัจจัยเชิงเทคนิคอย่างการลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม และการเติบโตของเครือข่ายเลเยอร์ 2 ก็ยังไม่สามารถผลักดันอุปสงค์ได้อย่างมีนัยสำคัญ จากข้อมูลของแพลตฟอร์มข้อมูลบล็อกเชน Dune ระบุว่า ระบบหลักอย่างอาร์บิทรัมและออปทิสมิซึ่ม มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ยังไม่สามารถสร้าง ‘แรงซื้อจริง’ ให้กับ ETH ได้อย่างชัดเจน
‘การลังเล’ อย่างต่อเนื่องในตลาดอนุพันธ์ของ ETH แม้จะมีการฟื้นตัวของราคา ส่วนหนึ่งมาจากความไม่ชัดเจนทางนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ยังส่งผลต่อจิตวิทยาตลาด อีกทั้งการเปิดตัวอีทีเอฟแบบถือครองจริง (Spot ETF) ของอีเธอเรียม ซึ่งยังไม่ได้รับการอนุมัติ ก็นำไปสู่ ‘มุมมองที่ระมัดระวัง’ จากนักลงทุน
*ความคิดเห็น* จากผู้เชี่ยวชาญตลาดระบุว่า แนวโน้มการเติบโตของระบบนิเวศแบบเลเยอร์ 2 ยังคงเป็นข่าวดีในระยะกลางถึงยาวต่อ ETH อย่างชัดเจน แต่การจะผลักดัน ‘อุปสงค์ที่จับต้องได้’ ให้เกิดขึ้นจริงจนเป็นแรงผลักดันให้ราคาแตะและยืนเหนือ 3,000 ดอลลาร์ ยังต้องใช้ ‘เวลา’ และความชัดเจนของการใช้งานที่มากขึ้นในภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะในเชิงพาณิชย์หรือผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้จริง
ความคิดเห็น 0