ราคาซื้อเฉลี่ยของนักลงทุนระยะสั้นในบิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุ *100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.56 ล้านบาท)* เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ตามข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน ‘Glassnode’ โดยราคานี้สะท้อนต้นทุนเฉลี่ยของบิตคอยน์ที่ถูกซื้อภายในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่านักเก็งกำไรในตลาดได้ขยับ ‘ระดับแนวรับใหม่’ ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นักลงทุนระยะสั้น (Short-Term Holders) คือกลุ่มที่มักตอบสนองต่อความผันผวนของราคาได้ไว และมีแนวโน้มขายอย่างหนักในช่วงที่ราคาลดลง ซึ่งในอดีต ราคาซื้อเฉลี่ยของกลุ่มนี้มักกลายเป็น ‘แนวรับสำคัญ’ ของช่วงตลาดกระทิง และการที่ระดับ 100,000 ดอลลาร์ถูกผ่านขึ้นไปอย่างชัดเจน จึงอาจกลายเป็นแนวรับสำคัญหากตลาดเข้าสู่ช่วงปรับฐานในอนาคต
ขณะเดียวกัน ตลาดยังเห็นสัญญาณการทำกำไรในช่วงสั้นอย่างเด่นชัด โดยมีการขายบิตคอยน์เพื่อทำกำไรรวมมูลค่ากว่า *3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 126,000 ล้านบาท)* ภายในหนึ่งวัน ซึ่งสะท้อนถึงการเริ่มปรับพอร์ตของบางกลุ่มนักลงทุนหลังราคาแตะระดับสูง
อีกด้านหนึ่ง มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาเกิดขึ้นในระดับโครงสร้าง เมื่อกระเป๋าคริปโตที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมานานถึง 14 ปี และถือบิตคอยน์กว่า *40,000 BTC (ประมาณ 130,000 ล้านบาท)* ได้ส่งเหรียญจำนวนดังกล่าวไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐอย่าง ‘กาแล็กซี ดิจิทัล(Galaxy Digital)’ โดยที่อยู่ดังกล่าวมีเหรียญที่ถูกขุดตั้งแต่ยุคของซาโตชิ นากาโมโตะ ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวตนผู้อยู่เบื้องหลังการโอนและวัตถุประสงค์ของการเคลื่อนไหวครั้งนี้
จากทั้งปัจจัยทางเทคนิค ความเชื่อมั่นของนักลงทุน และความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ปัจจุบันตลาดบิตคอยน์กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อชัดเจน ความผันผวนในระยะสั้นอาจเพิ่มสูงขึ้น แต่ราคาซื้อเฉลี่ยของนักลงทุนระยะสั้นในระดับปัจจุบัน อาจกลายเป็น ‘แนวรับหลัก’ ที่มีนัยสำคัญในภาพระยะยาว *ความคิดเห็น: นักลงทุนควรติดตามทั้งแรงซื้อจากนักเก็งกำไรและการเคลื่อนไหวของวาฬ เพื่อประเมินแนวโน้มที่แม่นยำยิ่งขึ้นในอนาคต*
ความคิดเห็น 0