Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

พายเน็ตเวิร์ก(Pi Network) เตรียมปลดล็อกโทเคนกว่า 620 ล้านเหรียญภายในปีนี้ ส่อกระทบราคาหนัก

พายเน็ตเวิร์ก(Pi Network) เตรียมปลดล็อกโทเคนกว่า 620 ล้านเหรียญภายในปีนี้ ส่อกระทบราคาหนัก / Tokenpost

ความกังวลของนักลงทุนกำลังเพิ่มสูงขึ้น หลังมีรายงานว่าเครือข่ายคริปโตชื่อดังอย่าง ‘พายเน็ตเวิร์ก(Pi Network)’ เตรียมปลดล็อกและกระจายโทเคนเข้าสู่ตลาดมากกว่า 600 ล้านโทเคนภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งอาจนำไปสู่ความผันผวนด้านราคาของเหรียญพาย(Pi) ในระดับที่รุนแรงขึ้น

ตามข้อมูลจากบัญชีผู้ใช้ pinetworkmember ระบุว่า ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงธันวาคม จะมีการปลดล็อกโทเคนรวมแล้วกว่า 620 ล้านเหรียญ โดยแบ่งเป็นเดือนสิงหาคม 139 ล้านโทเคน, กันยายน 116 ล้านโทเคน, ตุลาคม 93 ล้านโทเคน, พฤศจิกายน 102 ล้านโทเคน และในเดือนธันวาคม 170 ล้านโทเคน ซึ่งถือเป็น ‘ปริมาณมหาศาล’ ที่จะเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง *ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีโทเคนจากการโยกย้ายระบบเข้ามาเพิ่มสูงสุดถึงวันละ 5 ล้านโทเคน* ทำให้ความเร็วในการเพิ่มขึ้นของอุปทานอยู่ในระดับน่ากังวล

หนึ่งในเหตุการณ์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึง ‘ผลกระทบของการปลดล็อกครั้งใหญ่ต่อราคา’ โดยเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม มีการปลดล็อกโทเคนครั้งเดียวถึง 337 ล้านโทเคน ส่งผลให้ราคาเหรียญ Pi ร่วงลงเกือบ 25% ภายในวันเดียว ซึ่งสะท้อนถึงความไม่พร้อมของตลาดในการรองรับอุปทานใหม่ที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว

แม้พายเน็ตเวิร์กจะพยายามเปิดตัว ‘Pi App Studio’ เพื่อกระตุ้นการพัฒนาแอปพลิเคชันภายในแพลตฟอร์ม แต่ในแง่ของการดึงดูดโปรเจกต์ภายนอกหรือขยายฐานผู้ใช้งาน กลับยังไม่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม *ความต้องการใช้งานที่ยังจำกัด และสภาพคล่องที่ไม่เพียงพอ* ยังคงเป็นข้อจำกัดหลักของเหรียญ

ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ชี้ว่า แผนงานภายในระบบเพียงอย่างเดียวยังไม่อาจเพียงพอ เครือข่ายจำเป็นต้องเร่ง ‘เร่งกระบวนการกระจายศูนย์กลาง’, ‘สร้างพันธมิตรกับผู้เล่นภายนอก’ และ ‘ผลักดันการจดทะเบียนในตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตหลัก’ โดยปัจจุบัน เหรียญ PI *ยังไม่ถูกซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนระดับโลก* ทำให้ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง

นอกจากนี้ ยังมีคำเตือนจากกลุ่มผู้ใช้งานในชุมชนบางส่วนว่า ภายในปี 2027 อาจมีการปล่อยโทเคนเพิ่มเติมอีกกว่า 400 ล้านโทเคนเข้าสู่ระบบ และแม้จะยังอยู่ในสถานะ ‘ถูกล็อก’ แต่โทเคนเหล่านี้กลับถูกนับรวมเป็น *ปริมาณหมุนเวียนในตลาด* ซึ่งอาจสร้าง ‘แรงกดดันด้านอุปทานอย่างหนัก’ ในระยะยาว และนำไปสู่ *การลดลงของมูลค่าที่แท้จริงของเหรียญ Pi*

pinetworkmember เสริมว่า “การที่ผู้ใช้งานกลุ่มแรกจำนวนมากยังไม่ได้ปลดล็อกโทเคนของตนเอง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะขาดความเข้าใจเรื่องระบบล็อก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยชะลอการปรับฐานราคาในช่วงที่ผ่านมาเท่านั้น” พร้อมเตือนว่า *แรงกระแทกจากอุปทานแท้จริงอาจยังมาไม่ถึง*

หากพายเน็ตเวิร์กต้องการผ่านพ้นช่วงวิกฤตครั้งนี้ไปได้ จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่เปิดกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการสร้างตลาดที่แข็งแกร่ง เพื่อรองรับโทเคนจำนวนมากที่จะเข้าสู่ระบบในอนาคต หากยังยึดแนวทางปิดตัวแบบเดิม ความเสี่ยงที่ผู้ใช้งานจะเห็นโทเคนของตนเอง *สูญเสียมูลค่าการใช้งานที่แท้จริง* ก็อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้

*บทพิสูจน์ที่แท้จริงของพายเน็ตเวิร์กจึงไม่ได้อยู่ที่การออกเหรียญ แต่คือการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการหมุนเวียนและใช้งานจริงได้จริงในโลกภายนอก* ✍️

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1