ราคาของบิตคอยน์(BTC) พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 123,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 17.09 ล้านบาท) ก่อนจะปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 118,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 16.4 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ในตลาดกลับมองว่ายังมี ‘โอกาสปรับตัวขึ้นต่อ’ ได้อีก
เมื่อวันที่ 17 (เวลาท้องถิ่น) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชนอย่างคริปโตควอนต์(CryptoQuant) เปิดเผยว่า จากตัวชี้วัด *STH MVRV* (Short-Term Holder Market Value to Realized Value) ซึ่งเป็น ‘อัตรากำไรของนักลงทุนระยะสั้น’ พบว่า *บิตคอยน์มีแนวโน้มปรับขึ้นได้สูงสุดถึง 147,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20.5 ล้านบาท)* ในรอบนี้
นักวิเคราะห์ของคริปโตควอนต์ที่ใช้ชื่อว่า ดาร์กโพสต์(Darkfost) ระบุผ่านบัญชี X ว่า “ปัจจุบันนักลงทุนระยะสั้นมีกำไรเฉลี่ยราว 15% เท่านั้น ซึ่งยังไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นให้เกิดการเทขายขนานใหญ่” เขาอ้างถึงรอบตลาดครั้งก่อนๆ โดยชี้ว่า มักจะเกิดการขายทำกำไรในวงกว้างเมื่อ *ดัชนี MVRV แตะระดับ 1.35* หรือคิดเป็นกำไรที่ยังไม่รับรู้ราว 35% ขณะที่ตอนนี้ระดับดังกล่าวอยู่ที่เพียง *1.15 เท่านั้น*
ตามการวิเคราะห์ดังกล่าว ยังมี ‘ช่องว่างการปรับฐานกำไร’ อีก *20% ถึง 25%* ซึ่งสามารถสนับสนุนราคาบิตคอยน์ให้ไต่ขึ้นไปถึงช่วง *141,600 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 19.7 ล้านบาท) ถึง 147,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20.5 ล้านบาท)* ได้อีกครั้ง
จุดที่น่าสนใจคือ จากข้อมูล ณ วันที่ 11 กรกฎาคม *ราคาซื้อเฉลี่ยของนักลงทุนระยะสั้น หรือ ‘ราคาที่เกิดขึ้นจริง’ (realized price)* ได้ปรับขึ้นทะลุ *100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 13.9 ล้านบาท)* เป็นครั้งแรก โดยอยู่ที่ระดับประมาณ *102,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 14.18 ล้านบาท)* ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ‘ระดับราคาที่นักลงทุนใช้ตัดสินใจทำกำไร’ ขยับสูงขึ้นไปอีกขั้น
ดาร์กโพสต์ยังให้ *ความคิดเห็น* ว่า “รอบขาขึ้นของบิตคอยน์ในครั้งนี้ยังคงมีพลัง ไม่มีสัญญาณของความโลภสุดขีดในตลาด และดัชนีออนเชนที่สำคัญก็ยังไม่ถึงจุดสูงสุดในรอบไซเคิล” ซึ่งหมายความว่ากระแสการเก็งกำไรยังไม่ร้อนแรงจนเกินไป
นักวิเคราะห์ภาคสถาบันยังชี้ว่า สิ่งที่จะกำหนดทิศทางตลาดในระยะกลางคือ ‘พฤติกรรมของนักลงทุนระยะสั้น’ ซึ่งดัชนี *STH MVRV* กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักที่ใช้วัดแนวโน้มตลาด หากค่าดัชนียังไม่ถึงจุดวิกฤติ ก็มีโอกาสสูงที่ *แรงซื้อจะยังคงมีอยู่ในตลาดต่อไป*
ความคิดเห็น 0