บิตคอยน์(BTC) ซึ่งเคยเป็นผู้นำในตลาดกระทิง กลับไม่สามารถรักษาแรงขับเคลื่อนดังกล่าวไว้ได้ และเริ่มปรับตัวลดลงอีกครั้งใกล้ระดับราคาสูงสุดในรอบล่าสุด สร้างความกังวลในหมู่ผู้เล่นตลาดอย่างเห็นได้ชัด โดยเมื่อวันที่ 1 (เวลาท้องถิ่น) ราคาบิตคอยน์ในช่วงเปิดตลาดหุ้นสหรัฐไม่สามารถฝ่าแนวต้านที่ระดับ 120,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.66 ล้านบาท) ได้ และยังคงแกว่งตัวในระดับเดิม
จากภาพรวมดังกล่าว นักวิเคราะห์บางส่วนเริ่มตั้งคำถามถึง ‘ความเป็นไปได้ที่ราคาบิตคอยน์จะยังคงเดินหน้าแรงต่อไปได้หรือไม่’ ขณะที่นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง เบนจามิน โคเวน กล่าวว่า “หากดูจากวัฏจักรในอดีต การพักฐานลักษณะนี้บางครั้งสามารถเป็นจุดเริ่มต้นของรอบขาขึ้นใหม่” พร้อมแนะนำให้นักลงทุน “ให้ความสำคัญกับแนวโน้มการเติบโตในภาพใหญ่ มากกว่าความผันผวนระยะสั้น”
ในช่วงที่ราคาบิตคอยน์ยังไม่สามารถหา ‘ทิศทางที่ชัดเจน’ ได้ ความสนใจของตลาดเริ่มขยับไปยังเหรียญอื่น โดยเฉพาะ *ริปเปิล(XRP)* ซึ่งสร้างความฮือฮาเมื่อมูลค่าตลาดรวมสามารถแซงหน้า *แมคโดนัลด์(MCD)* หนึ่งในเครือร้านอาหารจานด่วนระดับโลก โดยในวันเดียวกัน มูลค่าตลาดของริปเปิลอยู่ที่ประมาณ 49,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 6.81 ล้านล้านบาท) สูงกว่าแมคโดนัลด์ ที่มีมูลค่าราว 47,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.53 ล้านล้านบาท)
ด้วยแนวโน้มราคาที่ไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านหลักได้ นักวิเคราะห์จึงเตือนว่า หากบิตคอยน์ยังไม่สามารถสะสมแรงซื้อเพื่อ ‘ดีดกลับขึ้นมา’ ได้ทัน การปะทะของเม็ดเงินในตลาดอาจเปลี่ยนไปสู่การสนับสนุนอัลต์คอยน์มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับ ‘ความคิดเห็น’ ของนักลงทุนรายใหญ่ที่เริ่มปรับกลยุทธ์จากการถือครองบิตคอยน์เพียงอย่างเดียว ไปสู่การกระจายความเสี่ยงผ่านเหรียญอื่นมากขึ้น
ทิศทางโดยรวมของตลาดคริปโตจึงอาจขึ้นอยู่กับว่า บิตคอยน์จะสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 120,000 ดอลลาร์ได้หรือไม่ เพราะหากทำได้สำเร็จ ตลาดอาจได้เห็นการกลับมาของการเคลื่อนไหวรอบใหม่ในแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง
ความคิดเห็น 0