ข่าวลือเกี่ยวกับการที่รัฐบาลจีนเตรียมจัดตั้งสินทรัพย์สำรองสกุลเงินดิจิทัลโดยใช้ริปเปิล(XRP) มูลค่ากว่า 55 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 40,000 ล้านดอลลาร์ กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดยืนยันว่า *ข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด*
ต้นตอของข่าวลือนี้มาจากผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อ Twitter) ที่ใช้ชื่อว่า Shibo ซึ่งอ้างว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ประกาศการรับรองทางกฎหมายของริปเปิล(XRP) พร้อมระบุแผนจะซื้อเหรียญในวงเงินกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์เพื่อเสริมสร้างสินทรัพย์สำรองของประเทศ โดยจะใช้ XRP เป็นฐาน อย่างไรก็ตาม *ไม่ปรากฏหลักฐานใดจากภาครัฐของจีน ไม่ว่าจะเป็นถ้อยแถลงจากรัฐบาลกลาง ธนาคารกลางจีน(PBoC) หรือรายงานจากสื่อหลักที่ยืนยันถึงแผนการดังกล่าว*
จีนยังคงเดินหน้าควบคุมนโยบายเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลอย่างเข้มงวด ตั้งแต่ปี 2017 รัฐบาลจีนได้ทยอยสั่งแบนการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และในปี 2021 ก็ขยายคำสั่งห้ามไปยังการขุด (mining) และกิจกรรมเกี่ยวกับคริปโตทั้งหมดในภาคเอกชน ปัจจุบันทางการมุ่งเน้นไปที่ *"ดิจิทัลหยวน (CBDC)" ที่ดำเนินการโดยรัฐ* และแสดงจุดยืนไม่สนับสนุนสินทรัพย์แบบกระจายศูนย์ เช่น ริปเปิล(XRP) หรือ บิตคอยน์(BTC)
แม้ว่าองค์กรเอกชนในจีนอย่างบริษัท Webus International จะเพิ่งยื่นเอกสารต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) เพื่อจัดตั้งกองทุน XRP มูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,170 พันล้านวอน) โดยมีเป้าหมายเพื่อรวม XRP เข้ากับโมเดลธุรกิจขององค์กร แต่ก็ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับรัฐบาลจีนหรือแนวทางสำรองสินทรัพย์แห่งชาติ
ตรงกันข้ามกับสหรัฐที่เริ่มมีท่าทีใช้ *บิตคอยน์(BTC)* เป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ภายในปีนี้ จีนกลับยังแสดงท่าทีห่างเหินต่อคริปโตจากภาคเอกชนและยังไม่มีสัญญาณของการเปลี่ยนนโยบายในเรื่องนี้ *รัฐบาลจีนยังยึดมั่นในการผลักดัน CBDC เป็นศูนย์กลางด้านการเงินดิจิทัล*
เหตุการณ์ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ข่าวลือบนแพลตฟอร์มโซเชียลอาจสร้างความสับสนให้กับนักลงทุนในตลาดคริปโตได้ง่าย *ความคิดเห็น* คือ นักลงทุนควรยึดถือเฉพาะข้อมูลจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือและมีการประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการเข้าใจผิดจากกระแสข่าวที่ไม่มีมูล
ความคิดเห็น 0