เจ้าหน้าที่ในนอร์เวย์ได้ตั้งข้อหาชายสี่คนในคดีฉ้อโกงการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลมูลค่ากว่า ‘80 ล้านดอลลาร์’ (ประมาณ 1.15 พันล้านโครนนอร์เวย์) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการระดมทุนจากนักลงทุนก่อนนำเงินไปใช้ในการ ‘ฟอกเงิน’
เมื่อวันที่ 16 หน่วยงานสืบสวนอาชญากรรมทางเศรษฐกิจของนอร์เวย์ (Økokrim) เปิดเผยว่าผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าหลอกล่อนักลงทุนให้ร่วมลงทุนในสินทรัพย์ที่ดูมีศักยภาพ เช่น คริปโตเคอร์เรนซี พลังงาน ก๊าซ การทำเหมือง และอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม เงินลงทุนถูกนำไปใช้จ่ายในลักษณะที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ และแทบไม่มีการลงทุนจริง โดยเงินที่ได้รับจากผู้ลงทุนใหม่ถูกใช้จ่ายให้กับผู้ลงทุนเดิม
Økokrim รายงานว่าเครือข่ายฉ้อโกงนี้สามารถระดมทุนได้รวม 9 พันล้านโครนนอร์เวย์ (ประมาณ 800 ล้านดอลลาร์) ในจำนวนนี้ 7 พันล้านโครน (ประมาณ 620 ล้านดอลลาร์) ถูกส่งผ่านไปยังบัญชีของสำนักงานกฎหมายในประเทศ รวมถึงบัญชีของบริษัทต่าง ๆ ในเอเชีย ซึ่งถูกระบุว่าเป็นการ ‘ฟอกเงิน’
เพื่อหลอกล่อนักลงทุน กลุ่มดังกล่าวได้จัดงานประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ และใช้เครือข่ายส่วนตัวเพื่อดึงดูดสมาชิกใหม่ Økokrim ระบุว่านี่เป็น ‘การฉ้อโกงทางการเงินขนาดใหญ่’ ส่งผลให้มีผู้เสียหายจำนวนมากสูญเสียเงินไป และสุดท้ายเงินจำนวนมหาศาลไหลเข้าสู่กระเป๋าของจำเลย
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น NRK ผู้ต้องหาเป็นชายชาวนอร์เวย์ในช่วงอายุ 50-70 ปี โดยกลุ่มดังกล่าวดำเนินการฉ้อโกงระหว่างเดือนมีนาคม 2015 ถึงพฤศจิกายน 2018 ทั้งนี้ มีผู้ถูกตั้งข้อหาสามรายในความผิดเกี่ยวกับการระดมทุนและอีกหนึ่งรายในข้อหา ‘ช่วยเหลือในการฟอกเงิน’
คริสเตียน เฟลเมน โยฮันเซน ทนายความของหนึ่งในจำเลยเปิดเผยว่าลูกความของเขาปฏิเสธข้อกล่าวหา ขณะที่ทนายของจำเลยอีกคนหนึ่ง โอเล เพตเตอร์ เดรบลันด์ ยืนยันว่า ‘ลูกความของเขาจะไม่ยอมรับผิดทางอาญา’
ศาลแขวงออสโลจะเริ่มไต่สวนคดีนี้ในเดือนกันยายนที่จะถึง โดยคาดว่าการพิจารณาคดีจะใช้เวลาประมาณ 60 วัน
ความคิดเห็น 0