ไมค์ เบลเช(Mike Belsche) ซีอีโอของบิทโก(BitGo) เน้นย้ำว่าบริษัทคริปโตควรจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อสร้าง ‘ความไว้วางใจ’ และ ‘ติดต่อสื่อสารกับนักลงทุนวอลล์สตรีท’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ในงาน ‘Consensus Hong Kong 2025’ เบลเชกล่าวว่า "หากต้องการทำธุรกิจกับวอลล์สตรีท การเป็นบริษัทมหาชนเป็นสิ่งจำเป็น" โดยเขายังชี้ให้เห็นถึงความยากลำบากในการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทคริปโตและสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม พร้อมยกกรณีของเอฟทีเอ็กซ์(FTX) เป็นตัวอย่างของความล้มเหลวในการร่วมมือกัน
เบลเชกล่าวเพิ่มเติมว่า "ตอนนี้วอลล์สตรีทให้ความสำคัญกับการตรวจสอบสถานะทางธุรกิจอย่างละเอียด และการกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความไว้วางใจ" พร้อมเน้นว่าการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะ(IPO) เป็นกระบวนการสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาด
บิทโก ก่อตั้งโดยเบลเชในปี 2013 และมีรายงานว่าอาจดำเนินการ IPO ภายในสิ้นปีนี้ แม้ว่าเขาจะปฏิเสธที่จะเปิดเผยกำหนดการที่แน่นอน
ในงานเดียวกัน ทอม ฟาร์ลีย์(Tom Farley) ซีอีโอของบูลลิช(Bullish) ก็สนับสนุนแนวคิดนี้ โดยกล่าวว่า "การเข้าจดทะเบียนในตลาดที่ได้รับการยอมรับช่วยเพิ่มความโปร่งใสและเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการสร้างความไว้วางใจ" พร้อมแสดงความเห็นว่า IPO จะส่งผลเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมโดยรวม
แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ยืนยันแผน IPO อย่างเป็นทางการ แต่พวกเขาต่างเห็นพ้องว่าการเป็นบริษัทมหาชนจะนำมาซึ่ง ‘ความโปร่งใส’ และ ‘ความน่าเชื่อถือ’ มากขึ้นให้กับอุตสาหกรรมคริปโต
นอกจากนี้ เบลเชยังกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกของกฎระเบียบคริปโตภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยระบุว่า "ไม่ใช่แค่ประธานาธิบดีทรัมป์ แต่พรรครีพับลิกันที่ครองที่นั่งทั้งในสภาคองเกรสและวุฒิสภาจะช่วยสร้างโอกาสในการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ"
เขายังชี้ให้เห็นว่าการแต่งตั้งบุคคลที่สนับสนุนคริปโตให้กับ SEC และคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า(CFTC) เป็น ‘สัญญาณบวก’ ต่อทิศทางของกฎระเบียบ อย่างไรก็ตาม แม้ว่านโยบายจะต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลง แต่เขาเชื่อว่าการปรับปรุงที่สำคัญจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น 0