บีเอ็นบี(BNB) สกุลเงินดิจิทัลหลักของแพลตฟอร์ม ไบแนนซ์ โซ่อีโคซิสเต็ม ได้สร้างสถิติใหม่อีกครั้ง โดยราคาทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมทั้งดันมูลค่าตลาดรวมแซงหน้าแบรนด์ใหญ่ระดับโลกอย่าง ไมโครสแตรทีจี, ไนกี้(NKE) และซอฟต์แบงก์ ขณะเดียวกัน มูลค่าทรัพย์สินของผู้ก่อตั้งอย่าง จางเผิงเจา(CZ) ก็พุ่งแตะ 1.58 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 220.2 ล้านล้านวอน) แซงหน้าบุคคลระดับตำนานอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้สำเร็จ
เมื่อวันที่ 28 ราคาของ บีเอ็นบี(BNB) พุ่งขึ้นแตะ 860 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.195 ล้านบาท) ในช่วงเช้ามืด ทำสถิติสูงสุดตลอดกาล ก่อนจะปรับฐานเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 849 ดอลลาร์ (ราว 1.179 ล้านบาท) แต่ยังคงแสดงความแข็งแกร่งด้วยอัตราเพิ่มขึ้น 6.48% ในรอบ 24 ชั่วโมง และเพิ่มขึ้น 12.74% ในรอบสัปดาห์ โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน ซึ่ง *ความคิดเห็น* มองว่าเป็นสัญญาณที่สะท้อนแรงเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างชัดเจน
ข้อมูลจาก 8MarketCap ระบุว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมของ บีเอ็นบี(BNB) อยู่ที่ประมาณ 119.3 พันล้านดอลลาร์ (ราว 165.9 ล้านล้านวอน) แซงหน้า ไมโครสแตรทีจี (ราว 115 พันล้านดอลลาร์), ยูนีเครดิต บจก. (ราว 112.9 พันล้านดอลลาร์), ไนกี้(NKE) (ราว 112.6 พันล้านดอลลาร์) และซอฟต์แบงก์ (ราว 112.5 พันล้านดอลลาร์) ส่งผลให้ *บีเอ็นบี(BNB) ขยับขึ้นสู่อันดับที่ 186 ของสินทรัพย์มูลค่าสูงสุดในระดับโลก*
ด้าน จางเผิงเจา(CZ) ผู้ก่อตั้งไบแนนซ์ ซึ่งถือครองโทเคนบีเอ็นบี(R) ราว 98 ล้านเหรียญ คิดเป็น 64% ของจำนวนโทเคนที่หมุนเวียนในตลาด มูลค่าคิดเป็น 83 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 115.5 ล้านล้านวอน) และเมื่อนำมารวมกับมูลค่าหุ้นของเขาใน ไบแนนซ์ แล้ว ทรัพย์สินส่วนตัวของ CZ จึงคาดว่าทะลุ 1.58 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 220.2 ล้านล้านวอน) ซึ่งสูงกว่าสินทรัพย์ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่อยู่ที่ประมาณ 1.444 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 201.5 ล้านล้านวอน)
นักวิเคราะห์มองว่าการพุ่งขึ้นของราคาครั้งนี้มาจาก *การขยายการใช้งานของบีเอ็นบี และการเติบโตของระบบนิเวศของไบแนนซ์* ที่ขับเคลื่อนผ่านปัจจัยต่าง ๆ เช่น จำนวนผู้ใช้แอปที่เพิ่มขึ้น สิทธิประโยชน์ด้านค่าธรรมเนียมการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม และการนำไปใช้ในดีไฟ (DeFi) ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสะท้อนถึง ‘*มูลค่าการใช้งานจริง*’ ของคริปโตไม่ใช่แค่การเก็งกำไร
ด้วยสถานะที่คริปโตเคอร์เรนซีอันดับต้น ๆ อย่าง บีเอ็นบี(BNB) ขยับขึ้นมาแทนที่บริษัทใหญ่ในระดับโลก ทำให้มีแนวโน้มว่า *คริปโตจะกลายเป็นสินทรัพย์ที่สามารถเทียบเคียงหรือแม้แต่แซงหน้าบริษัทแบบดั้งเดิม* ความเคลื่อนไหวนี้จึงถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโลกการเงิน และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของคลื่นลูกใหม่ที่สกุลเงินดิจิทัลจะทะยานขึ้นในตารางการจัดอันดับสินทรัพย์โลกต่อไป
ความคิดเห็น 0