Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

เจพีมอร์แกน(JPMorgan) จับมือคอยน์เบส(Coinbase) เปิดทางลูกค้า 80 ล้านรายเข้าถึงคริปโตโดยตรง

เจพีมอร์แกน(JPMorgan) จับมือคอยน์เบส(Coinbase) เปิดทางลูกค้า 80 ล้านรายเข้าถึงคริปโตโดยตรง / Tokenpost

เจพีมอร์แกนเชส(JPMorgan Chase) จับมือกับแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตชื่อดัง 'คอยน์เบส(Coinbase)' เปิดทางให้ลูกค้ากว่า 80 ล้านรายสามารถเข้าถึงคริปโตได้โดยตรง ความร่วมมือครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการ *“ลบเส้นแบ่งระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมกับสินทรัพย์ดิจิทัล”* อย่างเป็นรูปธรรม

หัวใจของความร่วมมือคือการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้งานให้เรียบง่ายยิ่งขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตของ เจพีมอร์แกนเชส จะสามารถโอนเงินเข้าบัญชีคอยน์เบสได้โดยตรงผ่านบัตร ซึ่งอาจมีบางธุรกรรมที่ถูกนับเป็นบริการเบิกเงินสดล่วงหน้า ซึ่งอาจมี *ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม* ผู้ถือบัตรควรตรวจสอบรายละเอียดให้รอบคอบ

ขณะที่ในปี 2026 ฟีเจอร์เพิ่มเติมจะถูกเปิดตัว เช่น การเชื่อมบัญชีธนาคารจากเชสโดยตรง หรือแม้กระทั่งแปลงคะแนนสะสม ‘Ultimate Rewards’ เป็นคริปโตได้ โดยคะแนนจะถูกแปลงเป็น ‘USDC’ ซึ่งเป็น *สเตเบิลคอยน์บนเครือข่ายเลเยอร์ 2* ที่ชื่อว่า ‘Base’ ที่พัฒนาโดยคอยน์เบสเอง บนระบบอีเธอเรียม(ETH)

คอยน์เบสมองการเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินเจ้าใหญ่ครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของแผน ‘*Onchain economy*’ หรือเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนบนบล็อกเชน โดยเฉพาะฟีเจอร์แปลงคะแนนเป็นคริปโตนั้นถือเป็น *ครั้งแรกของวงการ* ที่มีการเชื่อม ‘ระบบรางวัล’ กับสกุลเงินดิจิทัล

ฟาริยา ชีร์ซาด(Faryar Shirzad) หัวหน้าฝ่ายนโยบายของคอยน์เบสกล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวเป็น “ก้าวที่มีความหมายในการพาคนอีกพันล้านคนเข้าสู่โลกออนเชน” โดยเน้นว่านอกจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้แล้ว ยังต้องผลักดัน ‘การปรับปรุงกฎระเบียบ’ ควบคู่กันไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับ *ค่าธรรมเนียมจากการซื้อคริปโตด้วยบัตรเครดิต* เอริก บัลชูนา(Eric Balchunas) นักวิเคราะห์ ETF เตือนว่า อาจมีค่าธรรมเนียมสูงเกินไปจนทำให้นักลงทุนรายย่อยมองว่า "การเลือกลงทุนในบิตคอยน์ ETF อาจคุ้มค่ากว่า"

ที่น่าสนใจคือความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ดู ‘สวนทาง’ กับท่าทีของ CEO เจพีมอร์แกนอย่าง เจมี ไดมอน(Jamie Dimon) ที่เคยวิจารณ์คริปโตว่าเป็น *“สินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรไร้ค่า”* แต่การตั้งพันธมิตรกับคอยน์เบสสะท้อนว่า *บริษัทกำลังเปลี่ยนท่าทีเข้าสู่วงการคริปโตอย่างจริงจัง*

ในอีกด้าน นักลงทุนคริปโตบางรายเริ่มแสดงความกังวล เช่น ไทเลอร์ วิงเคิลวอส(Tyler Winklevoss) ผู้ร่วมก่อตั้งเจมินี(Gemini) ที่มองว่าการที่เจพีมอร์แกนเข้ามา ไม่ต่างจากความพยายาม *“ยึดครองพื้นที่แข่งขันของฟินเทค”* ในระบบการเงินดิจิทัล

สุดท้าย ความร่วมมือระหว่างสถาบันการเงินระดับโลกกับผู้นำในวงการคริปโตในครั้งนี้ เป็น *สัญญาณชัดเจนว่าการเข้าสู่ตลาดคริปโตของธนาคารขนาดใหญ่อยู่ไม่ไกล* และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทิศทางของอุตสาหกรรมการเงินดั้งเดิมสู่โลกดิจิทัล

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1